แคสเปอร์สกี้ แลป ชี้ผลวิจัย คู่รัก 21% สอดส่องผ่านช่องทางออนไลน์ หวังแก้แค้นอีกฝ่ายยามรักคุด

แนะทำข้อตกลงก่อนใช้บัญชีออนไลน์ร่วมกัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อข้อมูลส่วนบุคคล

 

ดูจะเป็นการยากยิ่งขึ้นทุกวันๆ สำหรับบรรดาคู่รักทั้งหลายที่จะขีดเส้นความเป็นเธอกับฉัน และความเป็นส่วนตัว ในโลกที่เต็มไปด้วยออนไลน์แอ็คเคาท์และอุปกรณ์สื่อสารเชื่อมโยงกันได้เกือบทุกรูปแบบ เรื่องยุ่งยากจึงมาอยู่ที่ว่า หากคู่รักเหล่านี้เกิดรักคุด รักไม่เวิร์ก จนถึงขั้นเลิกรากัน แล้วจะทำอย่างไร? จากรายงานการวิจัยโดยแคสเปอร์สกี้ แลปร่วมกับบริษัทโทลูนา (Toluna) พบว่าผู้ใช้ 21% มักใช้ช่องทางสอดส่องติดตามความเคลื่อนไหวผ่านแอ็คเคาท์ที่เคยใช้ร่วมกัน แต่แฝงเจตนาหวังแก้แค้นหรือหาข้อมูลมาไว้กระแนะกระแหนคนรักใหม่ของอีกฝ่าย และนี่เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เกิดจากความเสี่ยงของความเป็นส่วนตัวที่คู่รักสมัยใหม่ทั้งหลายควรต้องตระหนักไว้ให้ดี

 

ความเป็นส่วนตัวนั้นกำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในโลกการใช้ชีวิตดิจิทัล และความสัมพันธ์ต่างๆ ของคนเราก็รวมอยู่ในนี้ด้วย เช่น 70% ของบรรดาคู่รักมักใช้พาสเวิร์ด เลขรหัสผ่าน หรือรอยพิมพ์นิ้วมือร่วมกันเพื่อเป็นรหัสในการใช้อุปกรณ์สื่อสารส่วนตัว และ 26% เก็บข้อมูลลับสุดส่วนตัวบางอย่างไว้บนอุปกรณ์ของคู่รักของตน เช่น ข้อความส่วนตัวบางอย่างที่สื่อสารหากันเฉพาะเราสองคน เป็นต้น และ (14%) ก็มักเก็บรูปภาพที่เฉพาะตัวสุดๆ (12%) หรือคลิปวิดีโอ (11%) นอกจากนี้ โดยทั่วไปก็จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแอ็คเคาท์ออนไลน์ ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลด้านการเงิน (11%) หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการงาน (11%) เป็นต้น

 

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คงไม่ใช่ประเด็นปัญหาเลยหากสัมพันธภาพความรักยังแน่นแฟ้นดีอยู่ และก็ถือได้ว่าข้อมูลอยู่ในมือของคนที่ไว้ใจได้ แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อเลิกร้างกันนั่นเอง เมื่อสัมพันธภาพดูจะคลอนแคลนง่อนแง่น การแชร์ความทรงจำสุดส่วนตัวบนเครื่องที่ใช้ร่วมกันหรือข้อมูลออนไลน์แอ็คเคาท์ จากที่เป็นเรื่องธรรมดาของคนรักกันต้องแชร์กัน ก็เริ่มดำดิ่งสู่ฝันร้ายของความเป็นส่วนตัวของคุณนั่นเอง

 

สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการณ์ฝันร้ายของการเลิกราเหล่านี้มาแล้ว พบว่า 12% ได้แชร์หรือต้องการที่จะแชร์ (เปิดโปง) ข้อมูลส่วนตัวของคนรักเก่าให้โลกได้รับรู้เป็นการแก้แค้น ส่วน 12% ได้ทำลายหรือต้องการทำลายอุปกรณ์ที่เคยร่วมกันนั้นให้สิ้นไป และ 21% แอบส่องคนรักเก่าผ่านทางแอ็คเคาท์ที่เคยเข้าได้ นอกจากนี้ ก็ยังอาจจะมีผลกระทบไปถึงด้านเงินๆ ทองๆ อีกด้วย การศึกษาข้อมูลชี้ว่า หนึ่งในสิบ (10%) ของคนที่เลิกรากันไปยอมรับว่าได้แอบใช้จ่ายเงินของคู่รักเก่าทางออนไลน์ด้วย

 

เป็นที่น่าสนใจไม่น้อยว่า มีความแตกต่างทางพฤติกรรมระหว่างหญิงชาย เพราะฝ่ายชายดูจะเป็นฝ่ายที่ปล่อยข้อมูลเพื่อแก้แค้นฝ่ายหญิงมากกว่า (17% vs 7%) และหาประโยชน์จากข้อมูลเหล่านั้น (17% vs 8%) ในขณะที่ฝ่ายหญิงมีแนวโน้มที่จะเลือกทำในสิ่งที่ชอบธรรมมากกว่าด้วยการลบข้อมูลทิ้งจากเครื่องที่เคยใช้ร่วมกันไปเลย (55% vs 49%) รวมทั้งรูปภาพ คลิปวิดิโอหลังเลิกกันไป (56% vs 48%)

 

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายหญิงก็มักจะเป็นฝ่ายที่จะมีกลเม็ดลูกเล่นต่างๆ อยู่ไม่น้อย เช่น 33% ยอมรับว่าอาศัยโซเชียลเน็ตเวิร์ก คอยแอบส่องความเป็นไปของคนรักเก่า เทียบกับฝ่ายชายที่มีเพียง 28% ที่ทำแบบนี้

 

ทั้งนี้ การยุติความสัมพันธ์ต่อกันก็ไม่ควรที่ต้องกลายมาเป็นความเสี่ยงต่อข้อมูลลับส่วนบุคคลทั้งหลาย เราควรหมั่นเปลี่ยนพาสเวิร์ดเข้าแอ็คเคาท์ที่เคยแชร์กับคนรักเก่าอยู่เสมอ การใช้ Kaspersky Password Manager เพื่อช่วยจัดการพาสเวิร์ด ไม่ว่าจะเป็นสร้างพาสเวิร์ดที่ยากต่อการแกะและเก็บในที่ปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น Kaspersky Total Security มีฟีเจอร์ File Shredder ซึ่งทำการลบไฟล์อย่างถาวร เช่น ไฟล์ที่คุณไม่ต้องการให้ใครเห็นอีกต่อไป ขณะที่ข้อความสุดส่วนตัวต่างๆ ที่อยู่บนเครื่องแอนดรอยด์ก็สามารถอาศัยฟีเจอร์ Privacy Protection เพื่อซ่อนข้อความเหล่านั้นได้

 

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรดักส์ของแคสเปอร์สกี้ แลปว่าจะเข้ามาช่วยท่านได้อย่างไรแม้ในเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวของท่านให้อยู่ในร่องในรอย ได้ที่: https://www.kaspersky.com/home-security

แคสเปอร์สกี้ แลป เตือนภัยช่วงเทศกาล โจรไซเบอร์อาศัยช่องโหว่ DDoS และ POS ฉกเงินร้านค้า

จากรายงานของแคสเปอร์สกี้ แลป เรื่อง IT Security Economics Report พบว่า บริษัทมากกว่า 77% ได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางไซเบอร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา การโจมตีระบบ DDoS และ POS ที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ยิ่งเสียหายหนักขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในช่วงสินค้าลดราคาสำหรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่มีผู้คนออกมาเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกมากกว่าปกติ และยอดขายร้านที่สูงขึ้น ทำให้ตกเป็นเป้าล่อตาล่อใจของโจรไซเบอร์เลยทีเดียว

 

การค้นคว้าวิจัยแสดงผลว่าในปีที่ผ่านมามีการโจมตี DDoS และช่องโหว่ของระบบขายหน้าร้าน (POS system) ที่ระบาดหนักเพิ่มสูงถึง 16% ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่าโจรไซเบอร์วางแผนรอช่วงเทศกาลนี้โดยเฉพาะ

 

ในปี 2017 นี้ มีการรายงานการรุกล้ำระบบความปลอดภัยไซเบอร์ระดับสูงในระบบการจ่ายเงินของแบรนด์ใหญ่ๆ มากมาย ได้แก่ Chipotle, Hyatt Hotels และ Forever 21 และจากรายงานล่าสุดของแคสเปอร์สกี้ แลป เรื่อง DDoS Intelligence Report ก็พบการโจมตี Botnet DDoS ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นและแพร่ระบาดในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งมีเป้าหมายการโจมตีประเทศต่างๆ ทั่วโลกจำนวนมากถึง 98 ประเทศ (เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 มี 82 ประเทศ)

 

รูปการณ์นี้มีความเกี่ยวโยงกับร้านค้าปลีกและบริษัทอีคอมเมิร์ซอย่างมากในช่วงเทศกาลลดราคาสินค้าคริสต์มาสและปีใหม่ โดยร้านค้าจะมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นเพราะนักช้อปออกมาเลือกซื้อของมากนั่นเอง สิ่งที่โจรไซเบอร์ทำได้จากการโจมตี DDos อาจเป็นการเรียกค่าไถ่ การใช้ระบบขายหน้าร้านเพื่อเลือกเหยื่อโจมตี รวมถึงการขโมยเงินและข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าด้วย

 

อาเลซซิโอ เอซติ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ แคสเปอร์สกี้ แลป กล่าวว่า “แคสเปอร์สกี้ แลป พบจำนวนการโจมตีลักษณะนี้เพิ่มขึ้นสูงมาก เราขอแนะนำให้ธุรกิจและร้านค้าปลีกตื่นตัวอยู่เสมอในช่วงเทศกาล เพราะมีความเสี่ยงสูงมากที่โจรไซเบอร์จะขโมยเงินผ่านการเอ็กพลอต์ในระบบจ่ายเงินหรือจากการโจมตีโดยใช้ DDoS นอกจากนี้อาจเรียกค่าไถ่หรือขัดขวางการซื้อขาย ทำให้บริษัทสูญเสียรายได้และเสียลูกค้าได้ นอกจากเหตุผลเพื่อป้องกันภัยที่กำลังระบาดนี้ การปรับปรุงระบบความปลอดภัยไซเบอร์ก็เป็นเรื่องสำคัญที่บริษัทต้องลงทุนอย่างสม่ำเสมอ”

 

ร้านค้าปลีกและบริษัทอีคอมเมิร์ซสามารถป้องกันตัวเองได้โดยใช้โซลูชั่นที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียรายได้ในช่วงเทศกาล แคสเปอร์สกี้ แลป ขอแนะนำร้านค้าปลีกเพิ่มเติมดังนี้

  • อัพเดทแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างสม่ำเสมอ เพราะในการอัพเดทแต่ละครั้งอาจมีแพทช์ที่สำคัญเพื่ออุดช่องโหว่ของระบบให้ปลอดภัยจากโจรไซเบอร์
  • เครื่อง POS ควรใช้งานซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด และไม่ใช้พาสเวิร์ดที่ตั้งค่ามาตั้งแต่เริ่มต้น
  • ใช้โซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ อย่างเช่น Kaspersky Embedded Systems Security เพื่อปกป้องเครื่อง POS จากมัลแวร์
  • เตรียมรับมือต่อการโจมตี DDoS โดยเลือกเซอร์วิสโพรไวเดอร์ที่น่าเชื่อถือ มีความเชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ การป้องกันทางไซเบอร์ไม่สามารถใช้แค่ทรัพยากรภายในองค์กรหรือบริการของอินเทอร์เน็ตโพรไวเดอร์ได้ทุกครั้ง
  • ให้ข้อมูลความรู้แก่ลูกค้าเรื่องภัยคุกคามไซเบอร์ที่อาจพบได้เมื่อช้อปปิ้งหน้าร้านและออนไลน์ รวมถึงแนะนำขั้นตอนการลดความเสี่ยงต่างๆ

 

ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

  • รายงานของแคสเปอร์สกี้ แลป เรื่อง IT Security Economics Report

https://calculator.kaspersky.com/en/?utm_medium=pr_press

  • ข้อมูล Kaspersky DDoS Protection สำหรับธุรกิจ SMBs และเอ็นเทอร์ไพรซ์

https://retail.kaspersky.com/?utm_medium=pr_press