รองปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นประธานในพิธีการลงนามบันทึกข้อตกลง ไอซีดีแอล ร่วม 8 สมาคมดิจิทัลไทย พัฒนาทักษะบุคลากรดิจิทัลสู่มาตรฐานสากล

ICDL Thailand และสมาคมสำคัญหลักด้านดิจิทัลของประเทศไทยทั้ง 8 สมาคม อันได้แก่ 1. สมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2. สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย 3. สมาคมอีเลิร์นนิงแห่งประเทศไทย 4. สมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์ 5. สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย 6. สมาคมดิจิทัลไทย 7. สมาคมอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย และ 8. สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย ได้มีข้อตกลงและลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านการพัฒนาบุคลากรดิจิทัลของประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ

  1. เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) และระดับทักษะดิจิทัลขั้นสูง (Professional Skills) ให้กับสมาชิกของทุกสมาคมอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งหน่วยงานธุรกิจดิจิทัล ให้มีขีดความสามารถในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีโอกาสที่จะได้วุฒิบัตรรับรองความรู้และทักษะดิจิทัลระดับมาตรฐานสากล (ICDL – International Computer Driving License)
  2. เพื่อร่วมมือกันในการพัฒนาทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) และระดับทักษะดิจิทัลขั้นสูง (Professional Skills) ของบุคลากรในประเทศไทยให้ได้มาตรฐานสากลผ่านทางการใช้หลักสูตรของ ICDL ทั้งนี้จะป็นการร่วมเร่งขับเคลื่อนไทยแลนด์ 0 และดิจิทัลไทยแลนด์ให้มีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จและมีความยั่งยืนต่อไป
  3. เพื่อทำการฝึกอบรมพัฒนาทักษะการเป็นวิทยากรภายในมืออาชีพ (Train the Trainer) ตามมาตรฐานสากล ให้กับสมาชิกของทุกสมาคม และบุคลากรดิจิทัลจากทุกภาคส่วนให้สามารถเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) สำหรับสนับสนุนการปรับเปลี่ยนประเทศไทยไปสู่สังคมและเศรษฐกิจดิจิทัล
  4. เพื่อผนึกกำลังร่วมกันในการสร้าง เผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านดิจิทัลไปพัฒนางานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามกรอบบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสำหรับช่วยเหลือสังคมและประชาชนทั่วไป
  5. ส่งเสริม บ่มเพาะ และสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งเสนอแนะแนวทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิผล

ในโอกาสนี้ นางววรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ให้เกียรติเป็น ประธานเปิดงานและกล่าวแสดงความยินดีในพิธีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านการพัฒนาบุคลากรดิจิทัล ระหว่าง 8 สมาคม ร่วมกับ ICDL Thailand  ในขณะเดียวกัน ยังได้รับเกียรติจาก ดร. ฮิวจ์ส แพททริค โอคอนแนล กรรมการผู้จัดการ ICDL Thailand พร้อมด้วยนางสาวกฤษฏิ์กัญญา กานต์จิรธันย์ กรรมการบริหาร ICDL ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านการพัฒนาบุคลากรดิจิทัลดังกล่าวด้วย ณ ห้องประชุม โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ถ. แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

สถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นใดที่มีความสนใจ สามารถติดต่อร่วมเป็นเครือข่ายด้านการพัฒนาบุคลากรดิจิทัลของประเทศ หรือการเป็นศูนย์สอบมาตรฐานสากล ICDL กรุณาติดต่อโดยตรงได้ที่ นางสาวกฤษฏิ์กัญญา กานต์จิรธันย์ อีเมล :  icdlthailand@icdlthailand.org

 

ฟิตหุ่นแบบพรีเมี่ยมกับนักปั้นหุ่นดารา นาม”เทรนเนอร์จัน” ในราคาที่จับต้องได้

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเเนะนำคอร์สออกกำลังกายเเบบพรีเมียม!! ดูเเลฟูลคอร์สแบบฉบับซุปตาร์กันเลยทีเดียว ส่วนราคานั้นก็ไม่ได้เเพงอย่างที่คิด!! นั่นก็คือ คอร์สเทรนกับ “เทรนเนอร์จัน” ค่ะ

“เทรนเนอร์จัน” คือใคร?

“เทรนเนอร์จัน” หรือ “จัน-อานันท์ อภินันทน์” ที่รู้จักกันดีในวงกว้างว่าเป็น “เทรนเนอร์ดาราดัง” เทรนให้ดาราระดับซูเปอร์ สตาร์และเซเลบริตี้ของเมืองไทยหลายคน อย่างเบลล่า-ราณี , ขวัญ-อษุามณี , แหวนแหวน-ปวริศา ,เชียร์-ฑิฆัมพร ,หมอเจี๊ยบ-ลลนา, ปุ๊กลุ๊ก-ฝนทิพย์ หมาก-ปริญ ,ไมค์- ภัทรเดช ,เกรซ-กาญจน์เกล้า , น้ำชา-ชีรณัฐ , ยิปซี-คีรติ อีกเยอะเเยอะซึ่งถือว่าเยอะมากกกกก ถ้าดูจากรูปร่างของดาราแต่ละคนที่ผ่านการเทรนมาแล้ว ก็คงจะเชื่อมือในประสบการณ์ของเทรนเนอร์จันได้อย่างดี

ปกติเเล้วเทรนเนอร์จันจะรับเทรนส่วนตัว ที่ PowerZone Gym of Champions ย่านดินแดง นอกจากนี้ยังเป็นวิทยากร รับจัดเวิร์กช็อป ให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ การออกกำลังกายที่ถูกต้อง โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายเเละนักโภชนาการด้านอาหารร่วมด้วย

ประสบการณ์ตรงของ “เทรนเนอร์จัน” เริ่มจากจุดไหน ?

 “เทรนเนอร์จัน” ใช้วิธีศึกษาเรียนรู้การลดน้ำหนักจากประสบการณ์ตรง ที่เมื่อก่อนตนเองน้ำหนักเกือบ 100 กก. มานานจนเข้าวัยหนุ่ม น้ำหนักก็ทะลุ 130 กก. เเละร่างกายส่งสัญญาณเจ็บป่วย เขาจึงเริ่มต้นลองผิดลองถูกในการลดน้ำหนัก จนในที่สุดได้เรียนรู้การลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี จากการออกกำลังกาย และการควบคุมอาหาร ใช้เวลานานถึง 6 ปี จนมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ เเละได้เป็นนายแบบ

 

สำหรับหลายคนคงคิดว่า “เทรนเนอร์ดารา” จะต้องมีราคาที่เเพงเกินเบอร์ที่คนทั่วไปจะสามารถจ่ายไหวเเน่ๆ เเต่ในความเป็นจริงเเล้ว ไม่ใช่อย่างที่คิดเลยนะจ๊ะ วันนี้เป็นจะมาเเจงราคาของ “เทรนเนอร์จัน” กัน ใครอยากหุ่นเป๊ะเเบบดาราก็ตามกันมาจ้า

ราคาเทรน เทรนเนอร์จัน (Forcejun)

1) คอร์สเทรนเนอร์จัน

10 ครั้ง 30,000 บาท (ไม่จำกัดเวลาหมดอายุ)

20 ครั้ง 60,000 บาท (แถม 5ครั้ง)

40 ครั้ง 120,000 บาท (แถม 20ครั้ง)

2) พิเศษ! โปรฟิตหุ่น เทรน 2 เดือน ราคา 60,000 บาท

ในระยะเวลา 2 เดือน เทรนสัปดาห์ละ 4 ครั้ง (รวม 32 ครั้ง/2เดือน)

ใน 1 สัปดาห์ เทรนกับเทรนเนอร์จัน 3 ครั้ง และ กับทีมเทรนเนอร์จัน 1 ครั้ง

3) เทรนกับเทรนเนอร์ในทีม Forcejun

ตารางโปรแกรม เทรนเนอร์จันออกแบบ (เทรนในยิมเดียวกัน)

10 ครั้ง 15,000 บาท

20 ครั้ง 30,000 บาท (แถม 5ครั้ง)

40 ครั้ง 60,000 บาท (แถม 20ครั้ง)

4) Group Class เทรนพร้อมกัน 5 คน

เทรน 2 ครั้ง/สัปดาห์ คนละ 10,000 บาท (รวม 8 ครั้ง ในระยะเวลา 1 เดือน)

ภาพถ่ายของผู้ลงคอร์สกับเทรนเนอร์จัน

ภาพถ่ายของผู้ลงคอร์สกับเทรนเนอร์จัน
ภาพถ่ายของผู้ลงคอร์สกับเทรนเนอร์จัน
ภาพถ่ายของผู้ลงคอร์สกับเทรนเนอร์จัน
ภาพถ่ายของผู้ลงคอร์สกับเทรนเนอร์จัน

สำหรับการฝึกฝนพัฒนาเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรนนิ่งจนกลายเป็น เทรนเนอร์ดารา เมื่อเขาผ่านวิฤติของโรคอ้วนมาแล้ว จึงอยากส่งต่อให้กับคนอื่น ในช่องทางออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก , อินสตาแกรม , Youtube : Forcejun เทรนเนอร์จันก็มีการจัดทำคอนเทนต์ คลิปวิดีโอ แนะนำการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย โพสต์ลงเป็นความรู้แก่แฟนๆ เสมอ สามารถติดตาม เทรนเนอร์จันได้ที่ FB / Youtube / IG : Forejun กันนะคะ เเล้วอาจจะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากผู้มีความรู้ตรงกันเลยทีเดียว

การวางแผนผ่อนบ้านอย่างไร รีไฟแนนซ์บ้าน สินเชื่อบ้าน สินเชื่อธนาคารและบ้าน บ้านทำเลดี ราคาถูก

รอบรู้ 5 เคล็ดลับก่อนซื้อบ้านในฝัน เทคนิคผ่อนหมดไว ลดต้นลดดอก อย่างไรให้มั่นคง

หลายๆคนฝันอยากจะมีบ้านทำเลดี ราคาถูกสักหลัง ให้ครอบครัวได้อยู่แบบอบอุ่น สร้างความสุขที่แสดงถึงความมั่นคง แต่ปัจจุบันนี้ราคาของบ้านแต่ละหลังนั้นเรียกได้ว่าสูงถึง หลักล้านบาท แล้วเอาเข้าจริงๆก็จะมีค่าใช้จ่ายจิปาถะเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าประเมินบ้าน ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับบ้านต่างๆ อีกทั้งยังมีรายจ่ายแต่ละเดือนที่เป็นค่าผ่อนชำระอีก เห็นแบบนี้แล้วก็คิดหนักใจหลายๆเรื่องเลยใช่ไหมล่ะครับ

การวางแผนผ่อนบ้านอย่างไร รีไฟแนนซ์บ้าน สินเชื่อบ้าน สินเชื่อธนาคารและบ้าน บ้านทำเลดี ราคาถูก
credit:www.pixabay.com

แต่สำหรับวันนี้ พวกเราได้รวบรวมความรู้เรื่องการซื้อบ้านมาฝากกัน กับ การวางแผนผ่อนบ้านอย่างไร? ให้มั่นคงที่สุด เรียกได้ว่าวันนี้ครบครันทุกรายละเอียดความรู้เกี่ยวกับการเลือกดาวน์บ้าน ผ่อนบ้านและการรีไฟแนนซ์บ้าน ที่ทุกคนต้องรู้อย่างแน่นอน ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้าง? เราไปดูกันเลยครับ

เริ่มเก็บเงินดาวน์ คำนวณเงินผ่อนบ้าน

การวางแผนผ่อนบ้านอย่างไร รีไฟแนนซ์บ้าน สินเชื่อบ้าน สินเชื่อธนาคารและบ้าน บ้านทำเลดี ราคาถูก
credit:www.pixabay.com

เริ่มกันจากสิ่งที่ต้องทราบกันก่อน กับ การเก็บเงินดาวน์บ้าน ซึ่งถ้าคุณคิดจะผ่อนบ้านสักหลัง ก็ขอแนะนำให้เก็บเงินไว้สัก 10-15% ของราคาบ้านครับ เพราะว่าไม่ให้เป็นภาระหนักเกินไป สำหรับการผ่อนบ้าน กับสินเชื่อธนาคารในแต่ละงวดครับ ซึ่งทางธนาคารจะให้วงเงินกู้ 80-90% ของราคาบ้านนั่นเองครับ ใช่แล้วครับ…นี่คือสิ่งแรกที่ทุกคนที่อยากมีบ้านต้องเริ่มทำกันได้แล้ว อีกทั้งรวมไปถึงการคำนวณเงินผ่อนบ้าน พร้อมทั้งค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพราะว่ายอดหนี้ต้องไม่เกิน 40% ของรายได้นั่นเอง ไม่อย่างนั้นแล้วการเงินในแต่ละเดือนจะมีปัญหาแน่นอน

เข้าใจเรื่องดอกเบี้ยของธนาคาร

สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ควรจะใส่ใจเช่นเดียวกัน กับ รูปแบบอัตราดอกเบี้ย โดยจะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน คือแบบคงที่ และ แบบลอยตัว

อัตราแบบคงที่ จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือ เป็นดอกเบี้ยที่ธนาคารกำหนดแน่นอน ส่วนมากธนาคารจะเสนอแบบคงที่ในระยะเวลา 1-3 ปี
ส่วนอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว เป็นอัตราดอกเบี้ยที่อ้างอิงกับสถาบันการเงิน เนื่องจากต้นทุนของแต่ละธนาคารนั้นไม่เท่ากัน ทำให้ส่วนใหญ่เพื่อนๆจะเจอก็เป็น MLR หรือ MRR นั่นเอง โดยทั้งสองแบบนี้ก็คือ

MLR [Minimum Loan Rate] คืออัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ตัวอย่างเช่น มีประวัติการเงินที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างเพียงพอ

MRR[Minimum Retail Rate] คืออัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ บัตรเครดิตนั่นเอง

ทั้งนี้แล้วอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ทางธนาคารอาจจะเลือกใช้ MLR เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง หรือ บางธนาคารก็อาจจะใช้ MRR เป็นหลักในการปล่อยกู้ ซึ่งถ้าใครยังไม่เข้าใจก็อ่านรายละเอียดเรื่องดอกเบี้ยบ้านกันแบบละเอียดยิบ เข้าใจง่าย ได้ที่  บทความ MLR กับ MMR คืออะไรจาก ศคง

การวางแผนผ่อนบ้านอย่างไร รีไฟแนนซ์บ้าน สินเชื่อบ้าน สินเชื่อธนาคารและบ้าน บ้านทำเลดี ราคาถูก
credit:www.pixabay.com

เลือกสินเชื่อบ้านที่เหมาะกับตัวเอง

วางแผนทั้งที ก็เลือกสินเชื่อเพื่อประโยชน์ หรือ ข้อดีของการผ่อนบ้านนั้น พวกเราขอแนะนำให้เพื่อนๆเลือกสินเชื่อที่มีสิทธิประโยชน์ เหมาะกับตัวเอง ตัวอย่างเช่น ข้าราชการ แพทย์ ทหาร พยาบาล ที่มีสิทธิพิเศษจากธนาคารของรัฐบาล อย่างสินเชื่อเคหะสำหรับกลุ่มวิชาชีพออมสิน หรือ  สินเชื่อสวัสดิการทหารจากธนาคาร TMB เป็นต้น ที่มอบสิทธิพิเศษเรื่องอัตราดอกเบี้ย ในราคาพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นสิทธิเฉพาะอาชีพที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ส่วนเพื่อนๆที่มีธุรกิจส่วนตัว ก็เลือกสินเชื่อที่มีจุดเด่นเหมาะกับตัวเองที่สุดนะครับ

อยากผ่อนบ้านหมดไว ต้องมีเทคนิค

สำหรับข้อนี้เรียกได้ว่า เพื่อนๆหลายคนก็คงกำลังจะตามหากันหลายๆที่ใช่ไหมล่ะครับ ว่า จะมีเทคนิค หรือ เคล็ดลับแบบไหน? ที่จะผ่อนบ้านได้หมดไวๆ ซึ่งข้อดีของการผ่อนบ้านให้หมดไวนั่นก็คือประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับดอกเบี้ยลงได้ดี  ซึ่งเทคนิคง่ายๆมี 2 อย่างดังนี้ครับ

  • จ่ายเงินต่อเดือนเพิ่ม สำหรับการคิดดอกเบี้ยบ้านนั้น เป็นแบบลดต้น ลดดอก ซึ่งยิ่งเพื่อนๆจ่ายเงินต้นมากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยก็จะลดลงไปมากเท่านั้น ที่สำคัญระยะเวลาในการผ่อนก็จะลดลงตามไปอีกด้วยครับ คิดกันเล่นๆนะครับว่า การที่จ่ายเงินผ่อนบ้านเพิ่มไปอีกสัก 10% ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อนๆก็จะผ่อนบ้านได้เร็วขึ้นอีก 7 ปีเลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่ายิ่งจ่ายทบเพิ่ม ก็จะยิ่งหมดเร็วเท่านั้น
  • ทำรีไฟแนนซ์บ้าน การที่เพื่อนๆนำบ้านที่เสียอัตราดอกเบี้ยสูง มาขอกู้ใหม่ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ช่วยให้มีโอกาสได้ผ่อนดอกเบี้ยที่ถูกลงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเพื่อนๆมีเงินก้อน ก็ควรนำมาโปะหนี้ตรงนี้ เพื่อจะได้หมดไวๆ นอกจากนี้แล้วยังสามารถนำไปขอลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 1 แสนบาทเลยทีเดียว

บัตรเครดิต กับ สิทธิพิเศษเรื่องซื้อบ้าน

อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ทว่าบัตรเครดิตก็มีข้อดีในการซื้อบ้านด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ ซึ่งพวกเราจะอธิบายได้ว่า บัตรเครดิตของธนาคารต่างๆนั้นก็มีส่วนร่วมกับโครงการบ้านต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ กับ โครงการบ้านแสนสิริ ที่มีจุดเด่นรับส่วนลดเงินจอง 5% พร้อมรับคะแนนสะสมเพิ่ม 50,000 คะแนน เมื่อชำระเงินจองโครงการของแสนสิริผ่านบัตรเครดิตนั่นเอง กับ บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ แสนสิริ แพลทินัม ซึ่งถ้าใครสนใจก็เข้าไปอ่านต่อกันได้ที่ iMoney ได้เลยครับ

การวางแผนผ่อนบ้านอย่างไร รีไฟแนนซ์บ้าน สินเชื่อบ้าน สินเชื่อธนาคารและบ้าน บ้านทำเลดี ราคาถูก
credit:www.pixabay.com

สุดท้ายนี้พวกเราขอฝากเพื่อนๆที่กำลังวางแผนที่จะซื้อบ้านใหม่ หรือ กำลังผ่อนบ้านอยู่ตอนนี้ ก็ขอแนะนำให้อย่าสร้างหนี้สินที่ไม่จำเป็นเพิ่มเติม พร้อมทั้งต้องประหยัดให้มากๆ เพราะว่าค่างวดผ่อนส่งค่าบ้านในแต่ละเดือนเรียกได้ว่าสูงมากเลยทีเดียว ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนมีไอเดีย พร้อมต่อยอดรายรับด้วยการหารายได้พิเศษ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยล่ะครับ เพราะจะช่วยเจือจุนให้การใช้ชีวิตนั้นได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้นนั่นเอง สำหรับวันนี้พวกเราหวังว่าข้อมูลต่างๆที่พวกเราจัดหามาแนะนำให้ท่านผุ้อ่านได้รับความรู้กันแบบเต็มอิ่ม กับ บทความ รอบรู้เรื่องซื้อบ้าน วางแผนผ่อนบ้านยังไงให้มั่นคงที่สุด ถ้าใครมีความฝันอย่ารอช้า เริ่มทำกันได้เลยครับ ถ้าหากใครชอบบทความนี้ก็อย่าลืม!! กด Like กด Share ส่งต่อสาระดีๆแบบนี้ให้กับเพื่อนๆด้วยนะครับ แล้วพบกันใหม่กับบทความต่อไป ซึ่งจะเป็นเรื่องอะไร? อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ พวกเราขอลาท่านผู้อ่านทุกท่านไปก่อน สวัสดีครับ

แคสเปอร์สกี้ แลป เผยอันดับผู้ใช้ออนไลน์ไทย ‘ปลอดภัยกว่า-ดีกว่า’ ประเทศเพื่อนบ้าน

แคสเปอร์สกี้ แลป ประกาศรายงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ล่าสุดประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ซึ่งเป็นรายงานข้อมูลวิเคราะห์เรื่องการโจมตีผ่านเว็บ ภัยคุกคามทั่วไป และแหล่งที่มาของภัยคุกคาม รายงานเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถสกัดกั้นภัยไซเบอร์ผ่านเว็บที่คุกคามผู้ใช้ในประเทศไทยได้มากกว่า 5 ล้านรายการ ในช่วงระยะเวลาเพียงสามเดือนที่ผ่านมา

 

จากข้อมูลของ Kaspersky Security Network หรือ KSN พบว่าในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ปี 2018 ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถสกัดกั้นภัยไซเบอร์ผ่านเว็บที่คุกคามคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ในประเทศไทยได้ทั้งสิ้น 5,677,465 รายการ คิดเป็นผู้ใช้จำนวน 22.8% ที่โดนโจมตีโดยภัยคุกคามผ่านเว็บ ทำให้ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 75 ของโลกที่โดนโจมตีขณะใช้งานอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็จัดอยู่ในอันดับที่แตกต่างกันไป ดังนี้ ฟิลิปปินส์อันดับที่ 13 มาเลเซียอันดับที่ 24 อินโดนีเซียอันดับที่ 35 เวียดนามอันดับที่ 58 และสิงคโปร์อันดับที่ 142

 

Kaspersky Security Network หรือ KSN เป็นระบบที่รวมเทคโนโลยีคลาวด์ไว้ในผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรและผู้ใช้ทั่วไปของแคสเปอร์สกี้ แลป KSN จะวิเคราะห์ข้อมูลความปลอดภัยไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์หลายล้านคนทั่วโลกที่สมัครใจร่วมส่งข้อมูลให้ KSN ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถตรวจจับมัลแวร์ขั้นสูงและมัลแวร์ใหม่ที่ไม่รู้จักมาก่อนได้อย่างรวดเร็วที่สุด

 

สถิติของ KSN ในปี 2018 พบว่า ในไตรมาส 3 (เดือนกรกฎาคม-กันยายน) มีผู้ใช้ในไทยถูกโจมตีด้วยภัยคุกคามผ่านเว็บจำนวน 24.3% และจัดอยู่ในอันดับที่ 68 ของโลก ขณะที่ไตรมาส 2 (เดือนเมษายน – มิถุนายน) อยู่ในอันดับที่ 70 และไตรมาส 1 (เดือนมกราคม – มีนาคม) อยู่ในอันดับที่ 61 ของโลก

 

นางสาวเบญจมาศ จูฑาพิพัฒน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของแคสเปอร์สกี้ แลป กล่าวว่า “ข้อมูลจาก Kaspersky Security Network ของเราแสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้ในประเทศไทยนั้นมีความปลอดภัยมากขึ้นในด้านการถูกโจมตีออนไลน์และภัยคุกคามทั่วไปเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้ใช้ตระหนักว่าการโจมตีไซเบอร์นั้นมีอยู่จริงและไม่มีอะไรที่ปลอดภัย 100% ประเทศไทยกำลังเติบโตด้านโครงสร้างไอซีทีอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจึงจำเป็นต้องปกป้องตนเองเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมออนไลน์ที่มีความเสี่ยงก่อนที่จะสายเกินไป เพราะไม่มีใครที่จะปลอดภัยจากภัยคุกคามที่จ้องสร้างความเสียหายแน่นอน”

 

ตัวเลขสถิติไตรมาส 4 ปี 2018 ของประเทศไทยที่น่าสนใจ

ภัยคุกคามผ่านเว็บ

  • ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถตรวจจับและสกัดภัยคุกคามผ่านเว็บได้ 5,677,465 รายการ จากคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่ร่วมกับ KSN
  • ผู้ใช้จำนวน 8% ถูกโจมตีด้วยภัยคุกคามผ่านเว็บ
  • ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 75 ของโลกที่โดนโจมตีขณะใช้งานอินเทอร์เน็ต

ภัยคุกคามทั่วไป

  • ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลป สามารถตรวจจับและสกัดภัยคุกคามทั่วไปได้ 23,742,571 รายการ จากคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่ร่วมกับ KSN
  • ผู้ใช้จำนวน 9% ถูกโจมตีด้วยภัยคุกคามทั่วไป
  • ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 79 ของโลก

แหล่งที่มาของภัยคุกคาม

  • มีเหตุการณ์ที่เกิดจากเซิฟเวอร์ในประเทศไทยทั้งสิ้น 169,937 เหตุการณ์ คิดเป็นสัดส่วน 02% จากทั่วโลก
  • ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 40 ของโลก
  • ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับ 1 คิดเป็นตัวเลขสัดส่วน 12%

 

ข้อมูลนี้ แคสเปอร์สกี้ แลป ได้รับจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แลปที่อนุญาตให้ KSN ด้วยความสมัครใจ ผู้ใช้ จำนวนหลายล้านคนจาก 213 ประเทศทั่วโลก ได้เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อวิเคราะห์กิจกรรมมุ่งร้ายทางไซเบอร์ ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากรายงาน Global Kaspersky Security Bulletin for Q4 2018 ได้ที่เว็บ Securelist.com

 

แคสเปอร์สกี้ แลป เตือนนายจ้างระวังลูกจ้างเก่าที่คับแค้นแน่นอก ใช้ช่องทางเพื่อแก้แค้นทางไซเบอร์

การเปลี่ยนลูกจ้างนับเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ แต่ในบางกรณีก็ส่งผลร้ายที่แสนเจ็บปวดได้ ลูกจ้างเก่าที่ออกจากบริษัทไปแล้วอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและการเงินของบริษัทได้เช่นกัน แคสเปอร์สกี้ แลป ขอยกเหตุการณ์และวิธีป้องกันลูกจ้างเก่าที่หมายแก้แค้นทางไซเบอร์ต่อบริษัท ดังนี้

 

พาสเวิร์ดมูลค่า 2 แสนเหรียญสหรัฐ

 

ในปี 2016 นายทริโน วิลเลียมส์ ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีได้ยื่นเอกสารร้องเรียนต่อนายจ้าง คือ สถาบัน American College of Education เรื่องการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ จากนั้นไม่นานก็มีคำสั่งโยกย้ายให้ไปทำงานที่ออฟฟิซในเมืองอื่น ซึ่งนายทริโนได้ปฏิเสธคำสั่งนี้เพราะได้แจ้งเงื่อนไขการทำงานทางไกล หรือ teleworking ตั้งแต่แรกเข้าทำงาน ท้ายที่สุดนายทริโนก็ต้องออกจากงานและแม้จะได้รับสินไหมทดแทนก็ไม่พอใจอย่างมาก จึงตัดสินเอาคืนนายจ้างด้วยการเปลี่ยนพาสเวิร์ดของบัญชี Google ทำให้สถาบันไม่สามารถเข้าใช้งานบัญชีเพื่อส่งอีเมลและเอกสารให้นักเรียนกว่า 2 พันคนได้

 

นายทริโนอ้างว่าพาสเวิร์ดนี้เซฟอัตโนมัติเองในแล็ปท็อปที่ใช้ทำงานของเขา ซึ่งได้ส่งคืนหลังจากถูกไล่ออกทันที แต่ทางนายจ้างระบุว่า นายทริโนลบข้อมูลทุกอย่างในเครื่องทั้งหมดก่อนส่งคืน

 

นายจ้างจึงได้ติดต่อ Google เพื่อขอกู้คืนบัญชีนี้ แต่กลายเป็นว่าบัญชีอีเมลนี้จดทะเบียนเป็นบัญชีส่วนบุคคลของนายทริโน ไม่ใช่บัญชีของสถาบัน ทนายของนายทริโนได้กล่าวเป็นนัยๆ ว่า นายทริโนอาจจะจำพาสเวิร์ดได้หากสถาบันจ่ายเงิน 2 แสนเหรียญ พร้อมจดหมายรับรองการทำงานในแง่บวก

 

การโจมตีต่อหน้าต่อตา

 

นายริชาร์ด นีล ผู้ก่อตั้งร่วมและอดีตผู้อำนวยการฝ่ายไอทีของบริษัทด้านความปลอดภัยไอทีชื่อ Esselar ต้องออกจากบริษัทแบบจบไม่สวยและใช้เวลานาน 6 เดือนเพื่อวางแผนแก้แค้นเพื่อให้เพื่อนร่วมงานเก่าเสียชื่อเสียง นายริชาร์ดรอถึงวันที่บริษัท Esselar ถึงกำหนดสาธิตเซอร์วิสให้ลูกค้ารายใหญ่ชื่อ Aviva ในวันนั้นเองนายริชาร์ดได้แฮ็กโทรศัพท์มือถือของพนักงานบริษัท Aviva กว่า 900 เครื่องและลบข้อมูลทั้งหมด

 

เหตุการณ์นี้ทำให้ Aviva ยกเลิกธุรกิจและเรียกร้องเงิน 7 หมื่นปอนด์เป็นค่าเสียหาย แต่มูลค่าความเสียหายโดยรวมทั้งด้านชื่อเสียงและโอกาสทางธุรกิจของ Esselar นั้นคาดว่าสูงถึง 5 แสนปอนด์ ทำให้บริษัทต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนแบรนด์เพื่อความอยู่รอด

 

การลบข้อมูลฉับไวและเสียหายสาหัส

 

ไม่เพียงแต่ลูกจ้างเก่าเท่านั้นที่อันตราย อีกเหตุการณ์หนึ่งที่น่าสนใจนั้นเกิดจากพนักงานที่สงสัยว่าตัวเองจะโดนไล่ออก นางสาวแมรี่ ลูเป้ คูลี่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการของบริษัทสถาปนิกแห่งหนึ่ง ได้บังเอิญไปเห็นประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งของเธอ ซึ่งมีข้อมูลให้ติดต่อเจ้านายของเธอหากสนใจสมัครงาน

 

นางสาวแมรี่คาดว่าตัวเองกำลังจะโดนไล่ออก จึงได้ลบข้อมูลโครงการต่างๆ ย้อนหลังไปถึง 7 ปีทิ้งหมด ทำให้บริษัทเสียหายราว 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่แท้จริงแล้ว ประกาศรับสมัครงานนั้นเป็นประกาศของบริษัทอื่นที่คู่สมรสของเจ้านายฝากให้ติดต่อแทนนั่นเอง

 

วิธีการป้องกันการตกเป็นเหยื่อการแก้แค้นทางไซเบอร์

 

เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกจ้างเก่าสร้างความเสียหายแก่ระบบโครงสร้างไอทีของบริษัท แคสเปอร์สกี้ แลป ขอแนะนำบริษัทให้ปฏิบัติดังนี้

  • เก็บล็อกสิทธิ (right) ด้านไอทีของพนักงาน รวมถึงบัญชีและรีซอร์สที่พนักงานเข้าใช้งาน ให้สิทธิเพิ่มเติมอื่นๆ เฉพาะเมื่อพนักงานจำเป็นต้องใช้เท่านั้น
  • รีวิวและปรับปรุงรายการ right ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และยกเลิก permission ที่เก่าหรือหมดอายุใช้งาน
  • จดทะเบียนรีซอร์สของบริษัทด้วยชื่อที่อยู่ของบริษัทเท่านั้น ไม่ว่าบัญชีแบบบุคคลทั่วไปจะมีสิทธิประโยชน์แบบไหน หรือพนักงานคนนั้นน่าเชื่อถือเพียงใดก็ตาม โปรดระลึกไว้เสมอว่าความสัมพันธ์เชิงธุรกิจย่อมเป็นธุรกิจทุกอย่าง โดเมนเนม บัญชีโซเชียลมีเดีย แดชบอร์ดควบคุมเว็บไซต์ ควรเป็นทรัพย์สินของบริษัท และการยกการควบคุมดูแลให้พนักงานถือเป็นการไม่มองการณ์ไกล
  • ปิดกั้นสิทธิการเข้าถึงและบัญชีของพนักงานเก่าโดยเร็วที่สุด ถ้าเป็นไปได้ คือปิดทันทีที่เลิกจ้าง
  • ไม่เปิดเผยเรื่องการเลิกจ้างหรือการปรับปรุงโครงสร้างบริษัท และระลึกว่าการประกาศรับสมัครพนักงานในตำแหน่งเฉพาะเจาะจงนั้นอาจมีพนักงานพบเห็นได้
  • พยายามรักษาความสัมพันธ์อันดีกับพนักงานทุกคน สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีและเป็นมิตร การโจมตีทางไซเบอร์จากพนักงานเก่านั้นมักมีสาเหตุจากความคับแค้นใจมากกว่าความละโมบ

 

แคสเปอร์สกี้ แลป พบช่องโหว่ของตัวชาร์จรถไฟฟ้า สร้างความเสียหายต่อเน็ตเวิร์กบ้านได้

โดยปกติแล้วจะมีการทดสอบช่องโหว่ต่างๆ ของยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่อุปกรณ์เสริมที่จำเป็นกลับถูกละเลยอยู่บ่อยครั้ง เช่น ตัวชาร์จแบตเตอรี่ เป็นต้น ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ แลป พบว่า ตัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าของเวนเดอร์รายใหญ่รายหนึ่งมีช่องโหว่ที่จะทำให้ถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้ และการโจมตีที่ประสบความสำเร็จอาจหมายถึงความเสียหายของระบบไฟฟ้าของทั้งบ้าน

 

ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบันเนื่องจากจะช่วยรักษาสภาพแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน ในบางภูมิภาคจะพบเห็นจุดบริการชาร์จไฟทั้งของสาธารณะและเอกชนอยู่ทั่วไป ความนิยมที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ แลป ตรวจสอบตัวชาร์จสำหรับใช้ภายในบ้านรวมถึงฟีเจอร์การเข้าถึงระยะไกล (remote access) ผู้เชี่ยวชาญพบว่า ตัวชาร์จที่เชื่อมต่อหากถูกรุกล้ำก็สามารถทำให้ไฟฟ้าทำงานเกินกำลัง ทำให้ระบบที่เชื่อมต่ออยู่ล่ม และอาจทำให้ดีไวซ์อื่นๆ ในระบบเสียหายได้

 

นักวิจัยตรวจพบช่องทางในการใช้คำสั่งบนตัวชาร์จทั้งคำสั่งหยุดขั้นตอนการชาร์จและการตั้งค่ากระแสไฟสูงสุด การหยุดชาร์จนั้นจะเป็นการสกัดกั้นไม่ให้เจ้าของใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของตนได้ ส่วนการตั้งค่ากระแสไฟนั้นอาจทำให้มีความร้อนสูงเกิน อุปกรณ์ที่ไม่มีฟิวส์ป้องกันจะเสียหายได้ หาผู้โจมตีต้องการเปลี่ยนค่ากระแสไฟฟ้า ก็จะเข้าเน็ตเวิร์กผ่านวายฟายที่ตัวชาร์จเชื่อมต่ออยู่ และเมื่อดีไวซ์ต่างๆ นั้นเป็นดีไวซ์ที่ใช้งานภายในบ้าน การรักษาความปลอดภัยสำหรับเน็ตเวิร์กไร้สายจึงมีข้อจำกัด ทำให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมได้ง่าย เช่นการใช้วิธีเดาสุ่มพาสเวิร์ดซึ่งเป็นวิธีทั่วๆ ไป จากสถิติของแคสเปอร์สกี้ แลป พบว่า การโจมตี IoT ในปี 2018 จำนวน 94% มาจากการสุ่มพาสเวิร์ดแบบ Telnet และ SSH เมื่อผู้โจมตีเข้าถึงเน็ตเวิร์กไร้สายได้แล้ว ก็จะสามารถหาไอพีแอดเดรสของตัวชาร์จได้ง่าย ขั้นต่อไปคือการเริ่มหาประโยชน์จากช่องโหว่และการขัดขวางการทำงานต่างๆ

 

นักวิจัยได้แจ้งเรื่องช่องโหว่ที่ตรวจพบทั้งหมดไปยังผู้ประกอบการและได้รับการแพทช์แก้ไขเรียบร้อยแล้ว

นายดิมิทรี สกลียาร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยของแคสเปอร์สกี้ แลป กล่าวว่า “คนทั่วไปมักลืมว่าในการโจมตีแบบมีเป้าหมายนั้น โจรไซเบอร์จะมองหาส่วนประกอบเล็กๆ ที่ไม่สะดุดตาเพื่อใช้เป็นช่องทางบุกรุก ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมองหาช่องโหว่ทั้งในนวัตกรรมและในอุปกรณ์เสริมต่างๆ ด้วย ผู้ประกอบการเองก็ควรระมัดระวังเรื่องดีไวซ์ยานยนต์ และจัดตั้งโครงการล่าบั๊ก หรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ในกรณีนี้ เราโชคดีที่แจ้งช่องโหว่ไปยังผู้ประกอบการแล้วได้รับการตอบรับเชิงบวกและรีบแก้ไขอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นได้”

 

แคสเปอร์สกี้ แลป ขอแนะนำให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยดังนี้:

 

  • อัพเดทสมาร์ทดีไวซ์ทั้งหมดเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอย่างสม่ำเสมอ ในอัพเดทนั้นอาจจะมีแพทช์สำหรับช่องโหว่ร้ายแรง ซึ่งถ้าละเลยไม่แพทช์ ก็อาจช่วยให้โจรไซเบอร์เข้าถึงระบบในบ้านและชีวิตส่วนตัวได้
  • อย่าใช้พาสเวิร์ดที่ตั้งมาเบื้องต้นสำหรับเราเตอร์วายฟายและดีไวซ์อื่นๆ ควรเปลี่ยนเป็นพาสเวิร์ดที่แข็งแกร่ง และไม่ใช้พาสเวิร์ดซ้ำกันในดีไวซ์อื่นๆ
  • แนะนำให้แยกเน็ตเวิร์กสมาร์ทโฮมออกจากเน็ตเวิร์กที่ใช้กับดีไวซ์ส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัว เพื่อเป็นการป้องกันการติดมัลแวร์จากฟิชชิ่งอีเมล

 

ท่านสามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่

http://securelist.com/remotely-controlled-ev-home-chargers-the-threats-and-vulnerabilities/89251/

ข้อมูลสถิติของแคสเปอร์สกี้ แลป เรื่อง IoT

https://securelist.com/new-trends-in-the-world-of-iot-threats/87991/