Traveloka

Traveloka ร่วมมือ Expedia เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการ

Traveloka ร่วมมือ Expedia เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการ

Traveloka
Traveloka ประกาศกระชับความร่วมมือกับ Expedia ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนด้านการจัดหาโรงแรม เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าผู้ใช้บริการของ Traveloka จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Traveloka ผู้นำด้านการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักออนไลน์ ซึ่งมีสาขาให้บริการมากถึง 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุด จึงทำให้เกิดความสนใจในการร่วมลงทุนจากหลายกลุ่มธุรกิจ โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ประกอบไปด้วยการจัดหาโรงแรมผ่านเครือข่ายพันธมิตรของ Expedia (Expedia Affiliate Network) และการให้ Expedia รวมถึง East Ventures, Hillhouse Capital Group, JD.com และ Sequoia Capital เข้าร่วมลงทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยใน Traveloka ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมที่มากถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นตลาดโลกที่มีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเครือข่ายโรงแรมที่กว้างขวางและครอบคลุมของ Expedia จากทั่วโลก จะทำให้ Traveloka มีการเติบโตทางธุรกิจที่มากขึ้น และสามารถขยายการบริการไปยังทวีปเอเชียและอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การร่วมมือเป็นพันธมิตรดังกล่าวนี้ นอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์อันดีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดยั้งของ Traveloka ที่จะมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีที่สุดให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจให้กับโรงแรมคู่ค้าต่างๆ ของ Traveloka อีกด้วย Traveloka (https://www.traveloka.com/th-th/) คือ ผู้ให้บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักออนไลน์ชั้นนำ (Online Travel Agent หรือ OTA) ผู้นำด้านการท่องเที่ยวจากผลสำรวจแอปพลิเคชั่นด้านการท่องเที่ยว ที่มียอดดาวน์โหลดติดอันดับ 1 ทั้งในระบบ iOS และ Android อีกทั้งยังเป็นแอปพลิเคชั่นที่ติดอันดับการค้นหาใน Google Thailand ในปี 2016Traveloka ความโดดเด่นของ Traveloka
  1. ช่องทางการให้บริการที่หลากหลาย พร้อมทำเรื่องเที่ยวให้เป็นเรื่องง่าย
เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้ายุคเทคโนโลยี Traveloka ให้บริการจองเที่ยวบินและที่พักออนไลน์ทั้งบน เดสก์ท็อป โมบายเว็บ แอปพลิเคชั่นทั้งบน iOS และ Andriod นอกจากนี้ Traveloka ยังพร้อมทำเรื่องเที่ยวให้เป็นเรื่องง่าย ด้วยเป็นตัวช่วยที่ง่ายต่อการใช้งาน มีเทคโนโลยีการค้นหา แสดงผลลัพธ์ เปรียบเทียบราคา และการจองที่ล้ำกว่าใคร สะดวกด้วยช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย อีกทั้ง ยังมีบริการให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
  1. จัดการเรื่องเที่ยว ทั้งจองเที่ยวบิน และที่พักได้ในที่เดียว
Traveloka พร้อมให้คุณค้นหา เปรียบเทียบราคา จองเที่ยวบินและที่พักครบในที่เดียว ด้วยบริการจองเที่ยวบินออนไลน์ สำหรับสายการบินที่หลากหลายมากกว่าผู้ให้บริการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสายการบินประเภทโลว์คอสหรือฟูลเซอร์วิส ซึ่งครอบคลุมกว่า 70 สายการบิน อีกทั้ง ที่พัก โรงแรมต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก
  1. ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ: การเลือกชั้นโดยสาร และการจัดการการจองอื่นๆ
ล่าสุดในปี 2017 Traveloka ได้เพิ่มฟีเจอร์การเลือกชั้นโดยสาร เพื่อให้คุณจัดการเรื่องเที่ยวและการเดินทางได้สะดวกสบายขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น สายการบินประเภทโลว์คอสหรือสายการบินฟูลเซอร์วิส คุณก็สามารถเลือกชั้นโดยสารได้ตามต้องการ ก่อนการจอง ไม่ว่าจะเป็น แบบ Economy, Business และ Premium Economy เป็นต้น พร้อมกันนั้น Traveloka ยังสามารถให้คุณจัดการการจองด้วยตนเอง เพียงสมัครเป็นสมาชิก คุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงวันเวลาการเดินทางกับ  ฟีเจอร์ Easy Reschedule อีกทั้ง การยกเลิกและขอคืนเงินได้เช่นกันกับฟีเจอร์ My Refund (เป็นไปตามที่เงื่อนไขกำหนด)
  1. เปรียบเทียบราคาที่ดีที่สุด
Traveloka มีระบบจะแสดงการเปรียบเทียบราคาของทุกไฟลท์ และแต่ละสายการบิน ที่อยู่ในฐานระบบและแสดงผลลัพธ์การค้นหาของทุกสายการบินให้ในครั้งเดียว ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกเที่ยวบินที่ราคาที่ตรงใจได้อย่างสะดวกสบายมากกว่าการเปิดทีละเว็บไซต์  ซึ่งในจุดนี้รวมถึง Connecting Flight ที่ต้องเปลี่ยนเครื่อง แบบคนละสายการบิน ก็สามารถตรวจสอบราคาได้ง่ายขึ้นมากเช่นกันTraveloka
  1. ฟังก์ชั่น Smart Combo ช่วยจับคู่เที่ยวบินให้คุณประหยัดกว่า
นอกเหนือจากการเปรียบเทียบราคาที่ดีที่สุดแล้ว Traveloka ยังมีฟังก์ชั่นการจองเที่ยวบินในราคาที่แสนประหยัดด้วยฟังก์ชั่น Smart Combo ที่ช่วยจับคู่เที่ยวบินไป-กลับโดยอัตโนมัติพร้อมให้ราคาที่ประหยัดกว่าถึง 40% ไม่ว่าจะจองผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นก็ตาม
  1. ราคาจริงใจ จ่ายเท่าที่เห็น
ไม่ว่าคุณจะจองเที่ยวบินและที่พักโรงแรมกับ  Traveloka รับรองเลยว่า คุณจะได้ราคาประหยัดกว่าเว็บอื่นๆ ด้วยราคาที่พิเศษกว่าที่ไหนๆ ด้วยโปรโมชั่นที่คอยออกมาทั้งในและนอกช่วงเทศกาลทั้งของ Traveloka เองผ่านการแจกรหัสส่วนลดต่างๆ รวมถึง กับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิตและอื่นๆ นอกจากนี้ เมื่อคุณจองเที่ยวบินหรือที่พักโรงแรม คุณก็หมดห่วงได้เรื่องค่าใช้จ่ายแอบแฝง เพราะราคาที่แสดงอยู่บนผลลัพธ์การค้นหา ตั้งแต่แรกที่คุณเห็น เป็นราคาสุดท้ายที่คุณต้องจ่ายจริง ไม่มีค่าธรรมเนียมการจอง ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงใดๆ เพิ่มเติม
  1. ช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย
Traveloka สร้างความสะดวกสบาย ด้วยช่องทางการชำระเงินที่คลอบคลุมที่สุด ทำให้ทุกคนสามารถชำระเงินได้ แม้ไม่มีบัตรเครดิต ด้วยหลากหลายช่องทางการชำระเงิน ได้แก่ เคาน์เตอร์เพย์เมนต์ (7-11, Big-C, m-Pay, Pay@Post, TOT Just Pay, true money, FamilyMart และ Tesco Lotus), เอทีเอ็ม, บัตรเครดิต/บัตรเดบิต, อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง และช่องทางการโอนเงินผ่านธนาคารชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นช่องทางที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการบริการใดๆ ทั้งสิ้น
  1. บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
Traveloka มีศูนย์ให้บริการลูกค้าที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะดึกแค่ไหนก็อุ่นใจได้ เพราะเราพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกเมื่อ โดยคุณสามารถพูดคุยสอบถามข้อมูลและขอความช่วยเหลือได้ทั้งผ่านทางโทรศัพท์ 02-118-5400 ผ่านทางแช็ททั้งบน Live Chat ที่หน้าเว็บไซต์ และบนเฟสบุ๊คเพจเช่นกัน เช็คราคาตั๋วเครื่องบินและที่พัก ราคาพิเศษ พร้อมรับโปรโมชั่นดีๆ และดีลสุด Hot จาก Traveloka คลิกเลย!Traveloka
เที่ยวสิงคโปร์

สิงคโปร์หลักพัน 4 วัน 3 คืน แผนการเงินและแผนการเที่ยว

จะไปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยเงินหลักพัน ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่พลาดจุดหมายสำคัญอย่าง Universal studio Singapore(USS) แถมเก็บครบ จบในทริปเดียว เพียงแค่วางแผนให้ดีแค่นี้ก็เหลือเงินช็อปและเที่ยวได้สบาย

การวางแผนถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่การวางแผนสถานที่ที่เราจะไปหรือวิธีการเดินทาง แต่การท่องเที่ยวในแต่ละครั้งแน่นอนว่าปัจจัยหลักที่เราควรมีนั่นก็คือเงินนั่นเอง การจะเที่ยวอย่างสบายใจและสบายกระเป๋าต้องเกิดจากการวางแผนที่ดีด้วย

วันนี้มีเทคนิคเล็กน้อยจากการเดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์ ที่จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การกิน และที่พัก

เริ่มจากการวางแผนการเงิน

  1. ตั๋วเครื่องบิน
    หาตั๋วเครื่องบินราคาถูก อันนี้สำคัญมาก ถ้าได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูก เราจะสามารถประหยัดไปได้เยอะมาก เดี๋ยวนี้มีโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาถูกมากมายมาเสนอจูงใจนักเดินทางอย่างเรา
    สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราเจอตั๋วราคาถูกที่ Traveloka ตามไปเช็คได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Singapore.SIN/1
    เนื่องจากการเดินทางไปสิงคโปร์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่นานนัก เราจึงเลือกสายการบิน low cost อย่าง Jetstar ได้ตั๋วไป-กลับ ในราคา 2,756 (รวมค่าโหลดกระเป๋า) บริการดี ห้องโดยสารสะอาดTraveloka Singapore
  2. ที่พัก
    สำหรับการเลือกที่พักก็สำคัญไม่แพ้ค่าเครื่องเช่นกัน ซึ่งถ้าเราได้ที่พักราคาถูกก็จะช่วยประหยัดลงไปได้เยอะมากเช่นกัน สำหรับที่พักเอาไว้นอนพอ เพราะเราตั้งใจไปเที่ยว ไม่ได้ไปนอน ทริปนี้ไปกัน 3 คน เลยเลือกที่พักในรูปแบบ Hostel เพราะถูกกว่าโรงแรม เจอที่พักราคาถูกในเว็บ Traveloka ในราคา 1,566 บาท 3 คืน ต่อคน จองได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/singapore/region/singapore-107493
  3. สถานที่ที่จะไป ที่ต้องซื้อบัตรเข้า
    เราต้องรู้ว่าสถานที่ที่เราจะไปนั้นต้องเสียค่าเข้าหรือไม่
    อย่างของเรา จุดประสงค์หลักของการมาเที่ยวสิงคโปร์ครั้งนี้คือ Universal Studio Singapore (USS) และอีกสถานที่ที่อยากไปคือ Garden by the bay(GBB) ซึ่งต้องมีค่าบัตรในการเข้า ซึ่งเราก็ต้องหาข้อมูลว่าสามารถซื้อบัตรที่ไหนได้บ้างแล้วที่ไหนราคาถูกที่สุด จากการค้นหาทั้งใน Internet และเพื่อนที่เคยไปมาแล้ว ก็พบว่าที่ Sea Wheel Travel ได้ราคาดีสุดละ
    Universal Studio Singapore (USS) 62$(ประมาณ 1,488 บาท) เราซื้อพร้อมคูปองอาหารราคาพิเศษ ซื้อ 15$ ใช้ได้ 20$
    Garden by the bay(GBB) 19$ (ประมาณ 456 บาท)

    ***ทริคเล็กๆ ราคาอาหารที่ USS เริ่มต้นที่ 11$ ซึ่งอาหารเป็นเซ็ต อิ่มแน่นอน คูปองอาหารที่เราซื้อไปไม่สามารถทอนเป็นเงินได้นะและแลกคืนไม่ได้ด้วย จึงอยากแนะนำว่า ถ้าไป 2 คนก็ซื้อ ซื้อ 15$ (ใช้ได้ 20$ ) แล้วที่เกินก็ใช้เงินสดเอาดีกว่า

    ข้อมูล Sea Wheel Travel
    ตั้งอยู่ที่ People’s Park Centre ชั้น 3 ล็อกที่ #03-61
    Website : http://www.seawheel.com.sg/
    Facebook : www.facebook.com/SeaWheelTravel
    เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ 9.00 – 20.00 น., เสาร์ – อาทิตย์ 9.00 – 18.00 น.
    เบอร์โทร : (65) 6538 5557

  4. การเดินทางในสิงคโปร์
    บัตรรถไฟฟ้ามี 2 แบบ หลักๆที่เหมาะกับนักท่องเที่ยว
    – บัตร EZ Link (Easy link) : ใช้ได้สารพัดประโยชน์ ร้านค้า, รถไฟฟ้า, รถเมล์, แท็กซี่ ราคาบัตร 12$ ใช้ได้ 7$ อีก 5$ เป็นค่าบัตร เติมเงินตามจุดให้บริการ ขั้นต่ำ 10$ เหมาะสำหรับการอยู่หลายวัน เดินทางบ่อย เราก็ไม่เข้าใจการคำนวณการเดินทางเท่าไหร่ แต่จากการเปรียบเทียบ ค่าเดินทางจากเพื่อนที่ใช้บัตรนี้ คือใช้ไปค่าเดินทางยิ่งถูกลงกว่าบัตรอีกแบบ ไม่สามารถคืนบัตรได้ บัตรมีอายุ 5ปี
    – บัตร Standard Ticket : ใช้ได้กับรถไฟฟ้า เป็นบัตรเที่ยวต่อเที่ยว โดย 1 บัตร ใช้ได้ 6 ครั้ง ทุก 1,3,6 เที่ยว จะลด 10cen สามารถเติมเงินเข้าไปได้ สำหรับการไป 4วัน และเดินทางประมาณเราจะเหมาะกับแบบนี้มากกว่า
    ราคารถไฟฟ้า เริ่มต้นที่ 0.90$ ถึง SGD 1.80$ นั่นหมายความว่าเที่ยวแรกสมมติค่ารถ 1$ เราได้รับส่วนลด 10cen จะเหลือค่ารถครั้งนี้ 0.9$ ส่วนครั้งที่ 2 ก็จ่ายราคาเต็ม แต่ครั้งที่ 3 จะได้ลดอีก 10cen
  5. Sim card สำหรับ Internet
    สิงคโปร์ไม่มี Internet ฟรีเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นการมีซิมสำหรับใช้อินเทอร์เน็ตถือว่าจำเป็นมาก เผื่อหลงทาง
    เราซื้อซิมบนเครื่องเลย ได้แถมกาแฟ 1 แก้ว 555
    ราคาซิม 32$(ประมาณ 768 บาท หาร 3 นะ) ไปกัน 3 คนก็แชร์เนตกันอ่ะ ประหยัดได้อีก

แผนการเที่ยว

วันที่ 1
เดินทางถึงสิงคโปร์ ประมาณเกือบบ่ายโมง
เราเดินทางด้วย MRT จากสนามบินถึงที่พักประมาณบ่ายโมงกว่าๆ เราพักที่  Mercury Backpackers Hostel ที่เลือกที่นี่เพราะไม่ไกลจากสถานี MRT เดินทางสะดวก
หลังจากเช็คอินเสร็จเก็บข้าวของ ออกไปหาอะไรกิน เนื่องจากที่พักอยู่ใกล้ MRT สถานี Lavender ตรงนี้มีศูนย์อาหารรวมถึงห้างร้านค้าเยอะมาก สะดวกทั้งการเดินทางและอาหารการกิน รู้สึกโชคดี 🙂 บางวันก็กลับมากินข้าวแถวที่พักก่อนเข้าที่พักทุกครั้งเลย เพราะมีอาหารให้เลือกหลากหลายมากแถมราคาถูกด้วย
China Town
จากนั้นเดินทางไปซื้อตั๋ว USS และ Garden by the bay ที่ China Town ซึ่งสามารถเดินทางด้วย MRT ลงสถานี Chinatown ได้เลย
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็มาเดิน China Town ต่อ
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)

วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic)

ตรงนี้มีวัดที่เป็น Landmark ที่หลายๆคนมา คือวัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic) ที่นี่เป็นวัดจีน และจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ด้วย

China Town

Chaina Town singapore
China Town

บรรยากาศที่นี่ดูจะคึกคักที่สุดละ หนาแน่นไปด้วยผู้คน หลากหลายเชื้อชาติ มีร้านอาหาร ร้านขายของฝากเยอะมากๆ ระหว่างเดินจะมีหลายๆร้านให้ชิมอาหาร ขนมฟรี นี่ชิมจนอิ่มเลย 555
มีของสารพัดอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกิน และของฝากของที่ระลึก ใครหาของฝากมาที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการหาซื้อของฝาก

วันที่ 2
เดินทางไป USS อยู่นี่ทั้งวัน ไปกันตั้งแต่ 9 โมงเช้า รอประตูเปิด ตอน 10 โมง

Universal Studio Singapore (USS)
Universal Studio Singapore

การแสดง stuntman ดีงาม อลังการมาก

Universal Studio Singapore (USS) – ประทับใจของเล่นในโซน Transformers รอคิวนานมาก แต่คุ้มค่ามากๆ
– ตอนเย็นก่อนสวนสนุกปิด มีจุดพลุปิดสวนสนุก บริเวณ Hollywood Street (มุมฝั่งรูปปั้นดีที่สุด ฝั่งเดียวกับถนน หันหน้าเข้าหาน้ำ)

วันที่ 3
Singapore botanic garden

Singapore botanic garden
Singapore botanic garden

ตอนเช้าไป Singapore botanic garden สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่มาก มีต้นไม้น้อยใหญ่ตกแต่งได้สวยงาม แนะนำว่าไปเช้าๆจะสดชื่นมากๆ แต่ที่นี่อากาศก็ไม่ร้อนนะคะ เพราะต้นไม้ใบหญ้า ร่มรื่นตลอดทาง ชอบที่นี่มาก ถ้ามีเวลาก็อยากจะอยู่ทั้งวัน
ตามไปดูรีวิวและภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่จ้า https://goo.gl/4WWLfg
Garden by the bay

Garden by the bay
Garden by the bay

สถานที่จัดแสดงพืชพันธุ์นานาชนิด จากทั่วทุกมุมของโลกก็ว่าได้ อยู่ในโดมขนาดใหญ่โตมโหฬาร อลังการ โดยที่เราไปจะมีสองส่วน
สวนแรกเป็นไม้ดอกมี 2 ชั้น

Garden by the bay สิงคโปร์
Garden by the bay

อีกโซนเรียกว่า OCBC Skyway อันนี้มีหลายชั้นมากต้องอาศัยลิฟต์ในการขึ้นไป ใหญ่โตอลังการ พืชพันธุ์อยู่ในโดมที่มีการควบคุมอุณภูมิและแสง
Marina Bay Sands

Marina Bay Sands สิงคโปร์
Marina Bay Sands

Marina Bay Sands สิงคโปร์
ไปดูโชว์แสงสีไฟ กลางอ่าว Marina ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Garden by the bay สามารถเดินไปได้ ตรงนี้มีจุดน่าถ่ายรูปหลายจุด มีจุดที่เราพลาดคือ Merlion เสียดายเหมือนกัน เพราะถือเป็น Landmark ใครไม่มาถ่ายตรงนี้แปลว่ามายังไม่ถึงสิงคโปร์นะจ๊ะ แบบนี้แปลว่าเราต้องไปแก้ตัวใช่มั้ย อิอิ
ปล.เช็ครอบการแสดงด้วยนะ เราไปรอบสุดท้ายเลย คือ 2ทุ่ม

วันที่ 4

เดินทางกลับ
มาช็อปที่สนามบิน ปล.สาวๆคนไหนเป็นชอบแบรนด์ charles and keith รับรองถูกใจแน่ๆ เพราะเราเช็คมาแล้ว
Shop ที่สนามบินถูกว่า Shop ในไทย 2เท่าเลยนะ”
จบทริปสิงคโปร์เที่ยวงายสบายใจ ตังไม่รั่วไหลถ้าวางแผนดี

สรุปเพิ่มเติม

  • อาหาร+น้ำ มื้อละประมาณ 4$-10$ (4วัน 3คืน ประมาณ 1,500 บาท)
  • พกเพื่อนไปด้วย ไปช่วยกันแชร์
  • อินเตอร์เน็ตฟรีไม่ค่อยมี
  • ความรู้สึกส่วนตัว ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน ทั้งผู้คนและรถรา ดูเป็นเมืองเงียบๆ ยกเว้นบริเวณ China town และตามสถานที่ท่องเที่ยว คนจะเยอะเป็นพิเศษ และมีต่างชาติค่อนข้างเยอะ
  • พกแบตไปเยอะๆจะได้ไม่พลาดโอกาสเก็บภาพสวยๆ
  • ใช้เงินไปทั้งสิ้นประมาณ 8,000 บาท (ไม่รวมค่าช็อปปิ้ง 😉 )
oishi-eaterium สาขาซีคอนสแควร์

Oishi Eaterium ความอร่อยใหม่ระดับพรีเมี่ยม

Oishi Eaterium โฉมใหม่ของโออิชิบุฟเฟ่ต์ที่เพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นาน วันนี้มีโอกาสได้ไปลิ้มลองรสชาติ ซึ่งต้องบอกว่าอร่อยระดับพรีเมี่ยมจริงๆ คอซาซิมิต้องไม่ผิดหวังแน่ๆ เพราะความสดของอาหาร ทำให้ได้รสชาติอร่อย ที่มาพร้อมกับราคาไม่เบาเช่นกัน โดยราคาอยู่ที่หัวละ 659.- ไม่รวม vat ซึ่งเบ็ดเสร็จแล้วตกคนละประมาณ 700.- แต่ถ้าเทียบคุณภาพแล้ว ส่วนตัวคิดว่าคุ้มนะ

Oishi Eaterium เท่าที่รู้มามีแค่ 2 สาขาเท่านั้น คือที่เซ็นทรัลพระราม 9 และสาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ สาขาที่เราได้ประเดิมก็คือสาขาซีคอนสแควร์ oishi-eaterium สาขาซีคอนสแควร์

ร้านตกแต่งได้น่ารักสวยงาม สไตล์ญี่ปุ่น ร้านค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่ในการวางอาหารและสามารถรองรับลูกค้าได้จำนวนมาก

oishi-eaterium สาขาซีคอนสแควร์
บรรยากาศของร้าน oishi-eaterium สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์

สำหรับ oishi eaterium มีความพิเศษในเรื่องของการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสั่งอาหารรายการพิเศษ ซึ่งถ้าใครเคยใช้บริการโออิชิบุฟเฟต์ คงจะรู้กันดีว่ากรณีสั่งอาหารจะต้องถือคลิปที่วางไว้ให้แต่ละโต๊ะไปด้วย จากนั้นจะมีพนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ ตามหมายเลขบนคลิป ส่วน oishi eaterium จะมีการ์ดให้บนโต๊ะ เมื่อไปสั่งอาหารรายการพิเศษ เราจะต้องถือไปด้วย โดยตามโซนอาหารพิเศษนั้นจะมีหน้าจอให้เรากดเลือกรายการอาหาร และสแกนบาร์โค้ดเพื่อเป็นการยืนยัน จากนั้นแค่ไปรอที่โต๊ะ จะมีพนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ

oishi eaterium สาขาซีคอนสแควร์
การ์ดสำหรับสั่งอาหาร

รายการอาหารพิเศษ

สำหรับรายการอาหารพิเศษ จะมีอยู่ 3 โซน ได้แก่ โซนเทปันยากิ (เทปันยากิกุ้ง,ซีฟู้ดรวม ,แซลมอน ,เนื้อหมู ,เนื้อวัว, เทปันยากิหมูชีสลาวากะทะร้อน เมนูนี้ห้ามพลาด!!!),  สุกี้ยากี้ญี่ปุ่น, กุนกันไข่ปลาแซลมอนและโทโร่, มากิแซลมอนไส้ครีมชีส (จำได้ประมาณนี้)

oishi-eaterium สาขาซีคอนสแควร์
รายการอาหารพิเศษ
oishi-eaterium สาขาซีคอนสแควร์
รายการอาหารพิเศษ

โซนเทะมากิ

โซนนี้มีความน่ารักคิกขุอาโนเนะ กับการตกแต่งด้วยรถน่ารัก สีสันสะดุดตา มีเชฟอยู่ประจำคอยทำอาหารให้ตามเมนูที่เราสั่ง ซึ่งมีทั้งหมด 6 รายการได้แก่ เทะมากิปูนิ่มทอด,เทะมากิแซลมอน , เทะมากิทูน่า ,เทะมากิกุ้งชุปเกล็ดขนมปัง ,เทะมากิทงคัตสึ, เทะมากิไข่หวาน สั่งเสร็จรอรับได้เลย ทำแป๊บเดียว

โซนเทะมากิ
โซนเทะมากิ

โซนซูชิ ซาชิมิ

ความอลังการของซาซิมิ ที่เสิร์ฟไม่อั้น เห็นแบบนี้เติมตลอดนะจ๊ะ

oishi-eaterium โซนซูชิ ซาชิมิ
โซนซูชิ ซาชิมิ

oishi-eaterium โซนซูชิ ซาชิมิ

oishi-eaterium โซนซูชิ ซาชิมิ
มีโชว์แล่ปลาแซลมอนให้ดูกันสดๆด้วยนะ

โซนของทอด, ย่าง

มีปลาไข่ย่าง, เห็ดออรินจิ, บาร์บีคิว หมู เนื้อ ไก่, คูชิคัทสึ กุ้ง ไส้กรอก เห็ดหอม, เกี๊ยวซ่าทอด, โคโรเกะไส้ปูและชีส, ปลาชิราโอะเทมปุระ

oishi-eaterium โซนของทอด
โซนของทอด

โซนของหวาน

สำหรับโซนนี้มีขนมหวาน 4 อย่างให้เลือก (บางส่วนไม่ได้เก็บภาพมา) อร่อยทุกอย่าง มีให้ทำแพนเค้กด้วยนะ เด็กๆดูจะชอบโซนนี้ที่สุด และนอกจากนี้ยังมีกาแฟสดด้วย สามารถสั่งได้ มีพนักงานคอยให้บริการ

oishi-eaterium ของหวาน
โซนของหวาน

คากิโกริ เกล็ดนมหิมะสไตล์ญี่ปุ่น อารามณ์บิงซูนั่นแหละ มีให้เลือก 3 รสชาติ มี ชาเขียวถั่วแดง, ช็อกโกแลต, เมล่อนญี่ปุ่น

เราสั่งชาเขียวถั่วแดง มากิน แกเอ๊ยย ความชาเขียวแบบเข้มข้น ไม่หวานมากเกินไป ถ้าใครชอบหวานสามารถเติมนมข้นหวานเข้าไปได้อีก ในโซนนี้สามารถสั่งเฉพาะไอศกรีมอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน

oishi-eaterium คากิโกริ
คากิโกริ เกล็ดนมหิมะสไตล์ญี่ปุ่น

oishi-eaterium ของหวาน

ในส่วนของผลไม้ มีอยู่ 4 อย่าง ได้แก่ แตงโม, เมลล่อนญี่ปุ่น (หอมหวานฉ่ำมาก), แก้วมังกร, สับปะรด

oishi-eaterium ของหวาน
ผลไม้

เมนูอื่นๆ จริงๆมีเยอะมาก แต่ถ่ายมาแค่นี้ เพราะไม่ได้สนใจอย่างอื่นเกินกว่าซาซิมิ อิอิ

oishi-eaterium
เมนูอาหารอื่นๆ

oishi-eaterium

 

สรุป

  • ราคาหัวละ 659.- ไม่รวม vat จำกัดเวลาที่ 1 ชั่วโมง 45 นาที
  • พึงพอใจมาก ให้ 10/10 ไปเลยจ้า ทั้งคุณภาพอาหารและบริการ
  • ใครไม่ทานซาซิมิ แนะนำไปร้านอื่นดีกว่า เพราะจะถือว่าแพงไปสำหรับคนไม่ทานซาซิมิ
  • ถ้ามีเงินจะไปอีกแน่นอน

 

เวียดนามใต้

ตะลุยฝูงมอเตอร์ไซค์ ดื่มด่ำวิวทะเลทราย ใส่ชุดอ๋าวหญ่ายที่ ‘เวียดนาม’

‘เวียดนาม’ ประเทศที่หลายคนวางไว้เป็นคู่แข่งไทยในหลายๆด้าน ตั้งแต่แข่งกันส่งออกข้าว ไปจนถึงแข่งกันเป็นเจ้าอาเซียนในกีฬาฟุตบอล และการเกทับกันในวงการนางงาม

ทริปนี้จึงเกิดขึ้น เพราะอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองว่าเวียดนามจะเป็นอย่างไร? เทียบแล้วเจริญเท่าไทยไหม? พร้อมแล้วก็ไปพิสูจน์กันเลย!

บินไปกับVietJet Air
ทริปนี้เราจองตั๋วของVietJet Air โลว์คอสสัญชาติเวียดนาม ที่นางเพิ่งมาเปิดตลาดในไทยไม่นาน ได้ราคาไปกลับ2พันกว่า แต่!ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตแพงไป เลยไปจบที่3พันต้นๆ
ไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ สภาพเครื่องก็พอถูๆไถๆได้ ถ้าไม่คิดมาก เบาะก็กว้างพอประมาณ อย่าคาดหวังเยอะกับราคาเท่านี้

VietJet Air
ทีเด็ดอยู่ที่สจ็วตของเขาที่เลือกหนุ่มๆสไตล์ Dark Tall Handsome กล้ามแน่น คือไม่ขาวตี๋แบบสายการบินอื่น มาในยูนิฟอร์มเสื้อยืดสีแดงทะมัดทะแมง บางเที่ยวบินไม่มีแอร์ชะนีเลยจ้า มีแต่ผู้ อื้อหือออออ นั่งไปชม.นิดๆ แลนดิ้งถึงสนามบินในโฮจิมินห์ปลอดภัยจ้า

โฮจิมินห์ถิ่นลุงโฮโฮจิมินห์
ด้วยขนาดของเวียดนามที่ก็ไม่เล็กนะครับ มีการแบ่งภูมิประเทศเป็นเวียดนามเหนือ-ใต้ ซึ่งจากข้อมูลแล้วพบว่าเมืองเอกของประเทศคือโฮจิมินห์ อยู่ในเขตเวียดนามใต้ (นางไม่ใช่เมืองหลวงนะจ๊ะ เมืองหลวงนางคือฮานอย อยู่ทางเหนือ)

โฮจิมินห์

โฮจิมินห์ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ผู้คนพลุกพล่านมากสุด
มีสนามบินซึ่งถือว่าใหญ่สุดของประเทศแล้ว แต่ในสายตาเราและเพื่อนก็ว่ายังเล็กกว่าดอนเมือง นี่ให้เทียบเท่าประมาณสนามบินเชียงใหม่ ภูเก็ตไรงี้ ร้านDuty Freeน้อยนิด จัดที่นั่งให้คนรอเก้าอี้แบบหมอชิต ยังไม่ค่อยInternationalเท่าไร

(มีทริคการแลกเงินคือที่สนามบินเรทดีกว่าร้านข้างนอก เพราะฉะนั้นแลกไปเลยค่ะ แต่อย่าเทหมดหน้าตัก เหลือไว้เป็นUSดอลลาร์บ้าง ค่าเงินก็คิดยากชิบหาย จ่ายกันเป็นหมื่นเป็นแสนแบบแบงค์กงเต๊ก อย่าถามว่าคิดเป็นเงินไทยยังไง เพราะนี่ก็มั่ว55555)

ส่วนในเมืองไม่ค่อยมีตึกสูง แหล่งช็อปปิ้ง หรือโรงแรมหรูยังน้อย ร้านสะดวกซื้อแทบไม่ค่อยมี ยังเป็นมินิมาร์ทท้องถิ่นขายผ้าอนามัยโกเต็ก (โกเต็กที่บ้านเราเลิกขายไปแล้วอ่ะ) แต่เริ่มมีคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟสวยๆเอาใจวัยรุ่นมาเปิดเยอะขึ้น แต่สรุปแล้วกรุงเทพเราศิวิไลซ์กว่าโฮจิมินห์ เวียดนาม

(เออ ว่าแต่ลุงโฮเป็นใครวะ นี่ก็ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์เขามาก รู้แค่เป็นผู้นำคนสำคัญเคยไปอยู่ไทย แล้วไงต่อไม่รู้ ไปหาอ่านที่อื่นเอานะ5555)

ตะลุยฝูงมอเตอร์ไซค์

vietnam
เกิดมาไม่เคยเจอะเคยเจอ ขอยกเป็นประเทศที่มี ฝูงมอเตอร์ไซค์เยอะที่สุดในโลกกกกก ขอเรียกว่าฝูง เพราะมันไม่ได้มากัน5-6คัน มันมากันเป็นฝูงจริงๆ ยิ่งในเขตโรงเรียนนะ แล้วตอนโรงเรียนเลิก นักเรียนขี่กรูกันออกมาเต็มถนน เมิงเอ๊ยยยยฝูงซอมบี้ จยย.ชัดๆ จะขี่กันตามใจฉัน บีบแตรกันจนปวดกระดูกหูชั้นที่4 ถ้าต้องข้ามถนนคนเดียวนี่คิดหนัก เพราะรถมันไม่หยุดให้จ้า ก่อนข้ามก็ต้องสูดหายใจลึกๆ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วเดินจ้ำๆไปเลย ห้ามหยุดชะงักเด็ดขาด! แล้วคุณจะพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จ!!

แต่…แว้นของเขาคือแว้นคุณภาพ แว้นกันเพื่อเลี้ยงชีพไปทำมาหากิน ทุกคนจะใส่หมวกกันน็อกเปิดหน้า ใช้ความเร็วต่ำ ไม่ได้บิดเอาเป็นเอาตาย แว้นกวนเมืองแบบไทย เชื่อไหมว่าถึงรถจะเยอะ แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาเกิดอุบัติเหตุเลยนะ นี่ว่ายอดอุบัติเหตุช่วง7วันอันตรายไทยคงชนะเขาแหละ

ดินแดนมิจฉาชีพ ??

เที่ยวเวียดนามใต้

เรามักจะได้ยินข่าวคนเวียดนามเป็นมิจฉาชีพอยู่บ่อยๆ แม้กระทั่งมากรีดกระเป๋าในงานหนังสือบ้านเรา
ทริปนี้เราไปกัน6คน ชะนี5 ชาย1 (เอาไปยกของ ขี่ จยย.กับหารค่าข้าว) ระหว่างทริปก็ช่วยกันระแวดระวัง เดินคุมหน้าคุมหลัง เอากระเป๋าของมีค่ามาไว้ข้างหน้า สรุปทั้งทริปก็ไม่มีอะไรหาย ไม่เจอเหตุร้ายใดๆ เราว่าเรื่องแบบนี้มีอยู่ในทุกสังคมแหละ จะไทย เวียดนาม หรือประเทศยุโรปอย่างฝรั่งเศสก็ยังมีกระทู้เตือนภัยเลย เพราะฉะนั้นเราในฐานะนักท่องเที่ยวก็ต้องระวังตัวเองเป็นดีที่สุด

(อ่อ!มีโดนลุงเฝ้าที่จอดรถโกงค่าจอดครั้งหนึ่ง แต่พอเราบอกว่าเพื่อนจ่ายแค่นี้ นางก็ทำหน้างี้ดๆ ประมาณว่า อุ่ยตายแล้ว! โดนจับได้ แล้วก็รีบโบกมือให้เราเข้าจอดฟรีเลย)

อาหารการกิน

เฝอ เวียดนาม
เราขอแนะนำให้คุณพกน้ำปลา น้ำจิ้มแจ่ว สุกี้ ซีฟู้ดไปด้วย เพราะ80%ของอาหารเวียดนามคือจืด! ของขึ้นชื่อของประเทศนางคือ เฝอ ก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวจืดๆบ้านเราอ่ะแก มีหมู ไก่ เนื้อ ให้เลือก บางร้านก็ดี๊ดีสั่งเฝอไก่ เพราะไม่กินเนื้อ แต่ทางร้านก็ใช้น้ำซุปเนื้อราดมาให้เลยจ้าาาา

ขนมปังเวียดนาม
อีกอย่างที่ขึ้นชื่อคือแซนวิชพื้นเมืองที่ทำจากขนมปังฝรั่งเศสบ้องใหญ่ๆมาหั่น ใส่ผัก ใส่ไก่ ใส่หมู ราคาไม่แพง มีขายเกือบทุกมุมถนน
พิซซ่าเวียดนาม
พิซซ่าเวียดนามห่อหนังสือเรียน พิซซ่าเวียดนาม เป็นแผ่นแป้งกรอบ ราดซอสพริก โรยผัก โรยถั่ว ก็อร่อยดี ร้านนี้ขายหน้าโรงเรียน ป้าก็เอากระดาษหนังสือเรียนมาห่อซะเลย

จะกินไรก็ดูร้านนิดนึง พยายามเข้าร้านที่ดูสะอาด เชื่อถือได้ แล้วก็สังเกตป้ายเวลาสั่งอาหารด้วย เพราะคำว่าThit cho มันคือเนื้อหมาค่ะเมิงงงงง

อาหารเวียดนาม
เวลากินอะไรก็ตาม เขาจะเสิร์ฟคู่ผักสด เพราะเวียดนามคือดินแดนเกษตรกรรม
IMG_6060
ผักที่นี่จะดูสด ขนาดใหญ่เบิ้มมาก กะหล่ำปลีสามารถฟาดหน้าคนตายได้ เพราะมันใหญ่มากกกกกก ก็ไม่รู้ว่าปุ๋ยชั้นดีคือขี้หรือเปล่า 55555 แต่ขอเตือนอย่ากินผักมั่วซั่ว เพราะอาจมีสารพิษตกค้าง พี่เราเคยไปทำงานเวียดนาม ได้กินผักสดแล้วเกิดอาหารเป็นพิษ เข้าโรงพยาบาลกันยกคณะมาแล้ว

แต่ขอแนะนำนมดาลัท อร่อยจริงจัง สดจากเต้าจริงๆ แล้วถ้าไปเมืองชายทะเลอย่างมุยเน่ อย่าลืมไปกินอาหารทะเลรสชาติแปลกๆ หอยย่างโรยถั่ว ต้มยำกุ้งน้ำข้นหนืดเหมือนราดหน้ากันดูนะ

รีวิวเวียดนาม

สำรวจประชากร
คนเวียดนามจะจีนก็ไม่ใช่จีนจ๋าอ่ะ คือมีความตี๋หมวยนะ แต่ก็ไม่ใช่จีนอ่ะ บอกไม่ถูก ส่วนใหญ่จะร่างเล็กทั้งหญิงและชาย ไม่ค่อยสูง แต่สิ่งนึงที่ชนะเลิศของชะนีเวียดนามคือผิวพรรณจ้า ผิวนางดี ขาวเหลือง ฮาดะลาโบะมาก ไม่ค่อยมีใครเป็นสิวเป็นฝ้า แล้วชะนีบางคนแต่งตัวแรง ใส่ชุดรัดรูปสีสดตัดกับสีผิวขาวๆ เอ็กซ์แตกมาก ส่วนผู้ชายก็จะแอบมีความล่ำกรำแดดประปรายประชากรเวียดนาม

เหนือสิ่งอื่นใด อิประเทศนี้ไม่มีคนอ้วนค่ะ เดินมา100คนนี่แทบไม่เจอคนอ้วน เราคนไทยที่ไปเรานี่แหละอ้วนสุดในประเทศ ณ จุดนี้ต้องกราบความผัก ความสู้ชีวิตของคนในชาตินี้ที่ทำให้พวกนางหุ่นดีกันนะคะ

ส่วนใหญ่ก็สื่อสารภาษาอังกฤษรู้เรื่องกันนะ บางคนก็รู้ภาษาไทยด้วย แต่ถ้านอกๆเมืองหน่อยก็ใช้ภาษามือโบ๊เบ๊กันไป วัยรุ่นที่นี่ก็ติดสมาร์ทโฟน ก็ใช้ชีวิตชิคๆเก๋ๆไม่ต่างจากไทย แต่คนเวียดนามจะหน้านิ่ง ไม่ค่อยยิ้ม ไม่บ้าเหมือนคนไทยเอะอะๆยิ้มทุกเรื่อง

รถนอนในตำนาน

รถนอน เวียดนาม
รถนอน เวียดนาม

อีกหนึ่งประสบการณ์ที่อยากให้ได้ลองกันคือการนั่งรถนอนในตำนาน! ที่จะพาเราออกจากโฮจิมินห์ไปเมืองรอบนอก บอกเลยว่ามันเป็นการเดินทางบนพาหนะที่อเมซิ่งมาก ลองนึกภาพเตียง2ชั้นเรียงกันสิบ ยี่สิบเตียง อยู่บนรถที่เคลื่อนที่ได้

ขึ้นไปปุ๊ปสิ่งแรกที่ต้องทำคือการถอดรองเท้าใส่ถุงก๊อปแก๊ปที่เขาเตรียมไว้ให้ เพื่อไม่ให้กลิ่นรบกวนผู้โดยสารคนอื่น มีการแจกน้ำดื่ม แล้วก็ขึ้นประจำที่บนเตียง ซึ่งแล้วแต่ดวงว่าอิเด็กรถจะเลือกให้คุณอยู่ชั้นบนหรือล่าง ถ้าอยู่ชั้นบนก็ปีนขึ้นระวังๆหน่อย อย่าไปเหยียบหัวอิคนข้างล่างล่ะ 55555

ตอนแรกก็กังวลว่าจะนอนได้ไหม แต่พอได้สัมผัสแล้วบอกเลยว่าสบายมาก คือเราสามารถเหยียดได้ทั้งตัว หรือใครไม่อยากนอนก็ปรับเอนเบาะได้ตามสะดวก มีผ้าห่ม(ที่ไม่รู้ว่าซักล่าสุดเมื่อไหร่)ให้บริการ พอถึงครึ่งทางก็มีพักรถให้ลงไปเข้าห้องน้ำล้างอ้วก (ล้างอ้วกจริงๆ เพราะบนรถที่เรานั่งมีคนเมารถอ้วกจริงๆ เสียงดังมาก โอ้กอ้ากขากถุย อื้อหือ ดีที่กลิ่นไม่สาหัส)
เวลาลงรถเขาก็มีรองเท้าแตะไว้บริการ เราไม่ต้องแกะห่อรองเท้าให้ยุ่งยาก
ความอเมซิ่งยังไม่จบเพราะบนรถมีWiFiฟรีให้เล่นด้วยจ้า ไม่ว่ารถจะขับขึ้นเขาลงห้วยลัดเลาะไปไหนต่อไหน สัญญาณก็ยังไม่หลุด อเมซิ่งมาก เห็นอย่างนี้แล้วอยากให้เจ๊เกียวและบริษัทรถทัวร์ในไทยมาดูงานซะจริงๆ

ส้วมเวียดนาม
ยินดีด้วยค่ะ เพราะห้องพักที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชักโครก มีที่ฉีดตูด แต่ อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะคุณจะได้เจอประสบการณ์แปลกใหม่จากส้วมบางแห่ง เพราะนางจะไม่มีน้ำให้ค่ะ!
ที่จุดพักรถนอกเมืองไกลๆ ทุรกันดาร จะมีห้องน้ำแบบนั่งยอง ซึ่งในห้องจะไม่มีน้ำ ไม่มีจริงๆ ไม่ได้หลอก คือมันเนียนเหมือนห้องน้ำปกติมาก มีประตู มีโถส้วม แต่ แต่ แต่เมื่อคุณเสร็จภารกิจแล้ว จะต้องสะดุ้งโหยงและกวาดสายตาหาว่าน้ำอยู่ไหนนนนน? 55555

ส้วมเวียดนาม

ก่อนที่คุณจะต้องเดินออกมาอย่างเหนียมอาย และมาพบว่าน้ำมันอยู่ในถังใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้าส้วมนั่นเอง! โดยมีถังสีวางข้างๆให้ตักหิ้วเข้าไปในห้องน้ำเอง ฮัลโหลลลล นวัตกรรมอะไรของเมิงงง นี่ก็แยกไม่ออกว่าเขายังสร้างส้วมไม่complete ยังวางท่อน้ำไม่เสร็จ หรือว่ามันเป็นสไตล์ของเขาหว่า? ดูแลตัวเองกันนะคะ นัดแนะเพื่อนที่ต่อแถวกันดีๆ ว่าอย่าเพิ่งจ๊ะเอ๋ไป ขอเราตักน้ำไปราดก่อน ไม่งั้นจะเจอของดี เห็นขี้ฝรั่งเหมือนเรา

ทะเลทรายAEC
ใครจะไปคาดคิดว่าภูมิภาคASEANของเราก็มีทะเลทราย! ถ้าอยากสัมผัสต้องนั่งรถไปที่เมืองมุยเน่ จากนั้นก็ซื้อทัวร์ มีรถจี๊ปขับพาเที่ยว พาไปเดิน Fairy Stream (Suoi Tien) อารมณ์เดินเล่นหิ้วรองเท้าบนทางน้ำขังตอนน้ำท่วมหลังบ้าน แต่ข้างๆจะมีวิวดินแดงโดนกัดเซาะเหมือนแพะเมืองผีบ้านเรา

Fairy Stream (Suoi Tien)
Fairy Stream (Suoi Tien)

จากนั้นจะพาไปดูหมู่บ้านชาวประมง และขับรถทางไกลไปดูไฮไลท์ของเรา นั่นคือทะเลทรายนั่นเอง ซึ่งจะมี2แห่งที่แรกคือ White Sand Dunes (Mui Ne, Vietnam) เลอค่าาาาาฟ้าจรดทรายมาก ประหนึ่ง วิ่งหยอกกับท่านชีคบนเนินทรายในอาหรับ ขาดแต่เพียงอูฐเท่านั้นแหละ ทรายขาวละเอียดกองเป็นภูเขาสุดลูกหูลูกตา แต่อย่าถามเรื่องอากาศเพราะแดดเปรี้ยง ร้อนมากเช่นกัน

หมู่บ้านชาวประมง มุยเน่ เวียดนาม
หมู่บ้านชาวประมง
ทะเลทราย เวียดนาม
White Sand Dunes (Mui Ne, Vietnam)

(ขอเตือนคนผิวบอบบางแพ้ง่าย ให้โบกครีมกันแดดให้ทั่วตัวนะคะไม่เฉพาะแค่หน้า เพราะแดด ที่นี่ความเข้มข้นสูงมาก สูงกว่าไทย เรากลับมาแล้วเป็นกระขึ้นเต็มหลังมือเหมือนคนแก่เลย ไปหาหมอ หมอบอกเป็นเอฟเฟ็คจากแดดทะเลทรายนี่แหละ

แต่ในจุดนี้ เราจะโพสต์ท่าเอ้อระเหยมากไม่ได้นะคะ เพราะอิคนขับรถจี๊ปมันจะเร่งเรา ให้เราอยู่ในที่สวยๆได้ไม่นาน มันจะพาเรามาปล่อยที่ทะเลทรายแดง Red Sand Dunes Mui Ne ซึ่งไม่สวยเท่าขาว ด้วยเหตุผลที่ว่าจะให้เราได้ดูดดื่มกับวิวพระอาทิตย์ตก (แต่ความจริงแล้ว มันอยากจะเสร็จงานไวๆต่างหาก)

Red Sand Dunes Mui Ne
Red Sand Dunes Mui Ne

ที่นี่ก็จะสไตล์บ้านๆมีคนหอบของมาขาย เด็กมาหลอกขายแผ่นเล่นสไลเดอร์ ทิ้งตัวจากเนินทราย มีคนให้เช่าเสื่อปูนั่งปิคนิคกินไข่ปิ้ง กินข้าวหลาม อารมณ์แบบบางแสนบ้านเรา ทรายตรงนี้ก็จะสกปรกกว่า ไม่หรูเท่าทะเลทรายขาว แต่เราก็จะได้วิวพระอาทิตย์ตก ซึ่งเมื่อหมดแดดแล้วอากาศจะเย็น สดชื่นขึ้นเยอะเลย

ชิลล์ๆที่ดาลัท
นี่ชอบชื่อเมืองนี้นะ รู้สึกว่าเพราะ รู้สึกเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน ช้าๆเนิบๆ ซึ่งบรรยากาศในเมืองนี้ก็ดูอ่อนหวาน บ้านตุ๊กตา สโลว์ไลฟ์สมชื่อจริงๆ ที่นี่เป็นเมืองตากอากาศยอดฮิต เป็นเมืองที่อากาศดีมาก อุณหภูมิตอนเช้านี่แค่สิบต้นๆ มีหมอกจางๆ ต้องใส่เสื้อกันหนาวกันเลยทีเดียว มีที่เที่ยวที่หลากหลาย ทั้งสวนดอกไม้ ไร่สตรอเบอร์รี่ น้ำตกโรลเลอร์โคสเตอร์ โบสถ์ บ้านประหลาด มีทะเลสาปกลางเมืองที่ขี่มอเตอร์ไซค์วนรอบแล้วจะเป็นลม เพราะกว้างมากกก มีที่พักสวยๆให้นักท่องเที่ยวเลือกเยอะแยะเลย เท่าที่สังเกตจะมีชาวต่างชาติมากันเยอะ การจราจรก็ไม่แออัดเท่าโฮจิมินห์ เหมาะสำหรับการมาพักชิลล์ๆไม่เร่งรีบ สูดอากาศดีๆ ฟอกปอดก่อนต้องกลับไปผจญภัยในเมืองใหญ่

ดาลัด เวียดนาม
ดาลัด เวียดนาม

เก็บตกเวียดนาม
-สื่อที่นี่ เช่น ช่องทีวียังไม่ทันสมัยเท่าไทย ละครยังดูโปรดักชั่นต้นทุนต่ำ MV เพลงยังดูตลกๆอยู่
-แต่อินเทอร์เน็ตที่นี่เร็ว แรงกว่าไทย แม้จะในเขตทุรกันดารก็ยังมีสัญญาณครอบคลุม
-เวียดนามยังไม่มีรถไฟฟ้าทั้งใต้ดิน บนดิน ได้ข่าวว่ามีแพลนจะสร้างเร็วๆนี้(มั้ง)เวียดนาม
-ผู้คนเดินทางส่วนใหญ่ด้วยมอเตอร์ไซค์ รถยนต์บ้างประปราย มีรถเมล์ แท็กซี่ และอูเบอร์ให้บริการ
-นอกเมืองของเวียดนามยังล้าหลัง เป็นดินแดง บางจุดมีขยะเต็ม2ข้างทางรีวิวเวียดนาม
-ห้องน้ำบางจุดจะถูกถอดฝาชักโครกออกทุกห้องเหลือแต่โถ
-ตามตลาด ตจว.มีการแขวนขายเนื้อสุนัข
-ผลไม้ที่นี่มีคล้ายๆไทย ทั้งน้อยหน่า มะม่วง แก้วมังกร สับปะรด เงาะ รสชาติใกล้เคียงกัน
-เบเกอรี่วางแบในตู้โชว์ บางอันก็วางบนกระดาษ ไม่มีถาดใดๆ ดูไม่ค่อยน่ากินอ่ะ

รีวิวเวียดนาม
-ชุดอ๋าวหญ่าย ชุดประจำชาติของชาวเวียดนาม ราคาไม่ใช่ถูก ขนาดไซส์ก็รองรับหุ่นชาวเวียดนาม ผอมๆเล็กๆ ใครอ้วนใส่ไม่ได้นะจ๊ะ

ชุดอ๋าวหญ่าย
ชุดอ๋าวหญ่าย

-ไปเวียดนาม แต่ก็ไม่ได้เจอแหนมเนืองขายตามร้านนะ คาดว่าคนไทยน่าจะมาประยุกต์กันเอง
– เบียร์เวียดนามถูกมาก ถูกยังกะน้ำเปล่า รสชาติมีตั้งแต่อ่อนๆกินนุ่มๆ ไปยันเข้ม แก้วเดียวก็ได้ความมึน

ส่งท้ายเวียดนาม
การมาเปิดประสบการณ์ที่เวียดนามครั้งนี้ ได้รู้ได้เห็นอะไรเยอะแยะเลย นั่งเครื่องบินจากไทยแค่ชั่วโมงกว่าๆ นาฬิกาก็ไม่ต้องปรับ เพราะเวลาตรงกับไทย วีซ่าก็ไม่ต้องทำ ใช้เงินก็ไม่เปลือง ทริปนี้รวมแล้วหมดแค่หลักพันเอง
หากอยากลองเที่ยวทะเลทรายในงบประหยัด ไม่ต้องเสียค่าเครื่องไปดูไบ ที่นี่ก็เป็นชอยส์ที่ดีเลยแหละ หรือหากใครชอบธรรมชาติภูเขา ป่า นาขั้นบันได สถาปัตยกรรมสวยๆ ก็ลองไปเวียดนามเหนือ จะได้อีกรสชาติที่แตกต่างไปอีก

รีวิวเวียดนาม

ขอฝากเวียดนาม อีกหนึ่งประเทศไว้ในอ้อมใจขาลุยชาวไทย เพราะเราคือ…อาเซียนร่วมใจ อาเซียนเรามาร่วมใจ (จับมือคล้องกันแบบผู้นำตอนประชุมอาเซียน) ขอดุ๋มได๋ด๋าวเพียงเท่านี้ สวัสดีจ้าาาา

-อาจุมม่า-

ร้านบิงซู จุด 3 จุด

หวานเย็นหน้าร้อนสไตล์โอปป้า! ร้านบิงซู จุด 3 จุด ตัวเมืองอยุธยา!

ร้านบิงซู จุด 3 จุด ตัวเมืองอยุธยา
ร้านบิงซู จุด 3 จุด อยุธยา

ร้านบิงซู จุด 3 จุด สาขาตลาดเจ้าพรหม ในตัวเมืองอยุธยา เป็นร้านบิงซูแฟรนไชส์สาขาใหม่ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ณ ตัวเมืองอยุธยา เนื่องจากตอนที่เราไปกินคนแน่นร้านจนไม่มีที่นั่งในร้านในส่วนของห้องแอร์ เราจึงเลือกนั่งข้างนอกรับลมร้อนแทน ซึ่งเอาจริงมันก็ไม่แย่มากเพราะร้านที่เรากินตอนนี้มันคือน้ำแข็งใสยังไงก็สดชื่น! ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น.- 21.00 น. นาจา

บรรยากาศหน้าร้านบิงซู จุด 3 จุด ตัวเมืองอยุธยาร้านบิงซู จุด 3 จุดร้านบิงซู จุด 3 จุด ร้านบิงซู จุด 3 จุด

ร้านบิงซู จุด 3 จุด
มีโปร กินครบ 300 บาท ลุ้นไปเที่ยวเกาหลีฟรีอีกด้วย
ร้านบิงซู จุด 3 จุด
มุมถ่ายรูปอยู่หน้าร้าน

เอาล่ะ! มาเข้าเรื่องเมนูบิงซูกันดีกว่า ขอบอกเลยว่าร้านนี้โปรโมชั่นแรงมากกก ลด  10% ทุกเมนู 10 วันแรก เนื่องจากวันที่เราไปกินคือวันที่ 4 ที่เขาเปิดสาขาใหม่ที่ตลาดเจ้าพรหม และมีโปรอื่นๆอีกมากมายพูดเลยว่าตาลายจนต้องถามพนักงานเสิร์ฟว่ามีโปรอะไรบ้าง ให้เขาอธิบายให้เราฟังอีกรอบ เยอะจริงจัง ขอบอกว่าร้านนี้พนักงานเสิร์ฟบริการดีเยี่ยม ตอบได้ทุกคนถาม ขอรหัส wifi ก็ยังกดให้ 555ร้านบิงซู จุด 3 จุด ร้านบิงซู จุด 3 จุด

ร้านบิงซู จุด 3 จุด
คาราเมลโทสต์ ราคา 150 บาท
ร้านบิงซู จุด 3 จุด
สายไหมฮันนี่โทสต์ ราคา 170 บาท
ร้านบิงซู จุด 3 จุด
ช็อคโกแลตโทสต์ ราคา 150 บาท
ร้านบิงซู จุด 3 จุด
บิงซูดับเบิ้ลช๊อคโก้ ราคา 175 บาท
ร้านบิงซู จุด 3 จุด
บิงซูผลไม้ ราคาเริ่มต้น 125-220 บาท (ขึ้นอยู่กับชนิดผลไม้)

บิงซูผลไม้นี่เขาไปรับจากสวนด้วยตัวเองเลยนะ มั่นใจว่าคุณภาพคับถ้วย

นอกจากเมนูของหวาน ของคาวก็มีนะจ๊ะ

ร้านบิงซู จุด 3 จุด
มาม่าชีส ไข่หมูสับ ฟินสุด! ราคา 85 บาท

 

รายละเอียดเพิ่มเติม

ที่ตั้ง: หลังท่ารถเจ้าพรหม ก่อนถึง3แยกซอยบัวหวาน

facebook จุด3จุด เมืองอยุธยา

โทร.083-077-2515

ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท

หนาวติดลบกับวิวหิมะหลักล้านที่’ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท’ ณ เกาหลีใต้

หลังจากต้องเหงื่อไหลไคลย้อยกับอากาศร้อนๆของไทยในช่วงนี้ วันนี้ ‘อาจุมม่า’ ก็อยากจะชวนแฟนๆไปเปลี่ยนบรรยากาศ สัมผัสความเย็นยะเยือกแบบติดลบ กับหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกาหลีใต้ในช่วงฤดูหนาว ในสไตล์สกีรีสอร์ท กับที่นี่เลย! ‘ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท’

ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ลานสกีขาวโพลนรอต้อนรับนักท่องเที่ยว
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
กงยูอปป้า ยิ้มทักทายรออยู่เลยจ้า

‘ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท’ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของเกาหลีใต้ ที่เมืองพยองชาง จังหวัดคังวอนโด ถือเป็น 1 ใน 12 แห่งของสกีรีสอร์ทของเกาหลี อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 700 เมตร เพียบพร้อมด้วยความหรูหรา สะดวกสบายในระดับ 5 ดาว ลานสกีกว้างใหญ่ จึงได้รับเลือกให้เป็น 1 ในสถานที่ที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวในปี 2018 อีกด้วย

ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท

ที่นี่มีห้องพักหลายประเภท หลายตึก ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งโซนที่จะแนะนำเป็นโซนคอนโดค่ะ ตามมาเปิดห้องดูกันเลย

ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ตึกสูงตระหง่าน มีห้องพักหลายร้อยห้องเลย
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
เปิดประตูมาเจออุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ทั้งไฟฉาย ถังนิรภัย แผนผังเส้นทางหนีไฟ ให้ผู้พักอุ่นใจ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ถัดมาเจอโซนห้องครัวที่อุปกรณ์ครบครัน
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
มีเตาไว้ทำอาหารภายในห้องพักด้วย
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
มีจานชาม มีด ช้อน ฯลฯ เพื่อใช้ทำอาหารอย่างครบเซ็ต
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ตู้เย็นไซส์กะทัดรัด พร้อมด้วยตู้นิรภัย ผ้าห่ม ที่นอน และที่กวาดพื้น ให้ได้ใช้อย่างสะดวก
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ต่อด้วยโซนห้องน้ำ ที่มีอ่างล่างหน้าอยู่ด้านนอก
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
อ่างอาบน้ำให้นอนแช่น้ำอุ่นๆ คลายหนาวในช่วงอากาศติดลบ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
โซฟาที่ห้องรับแขกไว้นั่งดูทีวีเพลินๆ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
มีประตูกั้นระหว่างห้องรับแขกและห้องนอน
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ที่นอนของเรา!! นอนกันแบบสบายๆกับพื้น ไม่ต้องใช้เตียง แล้วก็ต้องปูกันเองด้วยนะ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
เปิดระเบียงออกไป เจอหิมะตกเต็มเลย บรื่อออ!

ได้ดูบรรยากาศห้องนอนกันไปแล้ว ที่นี้ลองมาดูวิวรอบนอกกันบ้าง

ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
ทางเดินที่เต็มไปด้วยหิมะ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
มีคาเฟ่และมินิมาร์ทให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
เด็กๆมาฝึกสกีกันเยอะเลย แต่ต้องใส่ชุดและใช้อุปกรณ์จากทางลานสกีเพื่อความปลอดภัยด้วยนะ
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
เจ้าหน้าที่ลงตรวจลานสกี ก่อนเปิดให้นักท่องเที่ยวใช้บริการในแต่ละวัน
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
เล่นสกีเหนื่อยแล้ว แวะไปเติมพลังที่ห้องอาหารกันบ้าง มีกิมจิหลากหลายประเภทให้เลือกชิมกันเพียบเลย
ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท
โซนผลไม้ เจอเงาะหน้าตาคล้ายๆบ้านเราด้วย
กงยู
ก่อนกลับก็เจอ กงยูอปป้า พรีเซ็นเตอร์สุดหล่อยิ้มส่งเราอีกด้วย

บอกเลยว่าฟินสุดๆกับห้องพักแสนสบาย กับวิวหลักล้านของลานสกีที่นี่ หวังว่าจะได้เจอกันใหม่นะคะ ‘ฟีนิกซ์ สกีรีสอร์ท’

-แอดมินอาจุมม่า-